แก๊สน้ำตาฟุ้งตลบปารีส ตร.ฉีดสกัดม็อบเสื้อกั๊กเหลืองบุกทำเนียบ
แก๊สน้ำตาฟุ้งตลบปารีส – เอเอฟพี รายงานว่า เมื่อ 24 พ.ย. เกิดเหตุปะทะกันอีกครั้งในการชุมนุมประท้วงรัฐบาลฝรั่งเศสขึ้นภาษีน้ำมันและค่าครองชีพ เมื่อตำรวจยิงแก๊สน้ำตาสกัดไม่ให้ผู้ชุมนุมเคลื่อนเข้ายังจัตุรัสปลาซ เดอ ลา กองกอร์ด กลางกรุงปารีส หลังผู้ประท้วงหลายพันคนที่ใช้สัญลักษณ์ สวมเสื้อกั๊กสีเหลืองสะท้อนแสง หวนกลับมาชุมนุมที่ถนนฌองเซลีเซส์ ใกล้พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ และพยายามเคลื่อนขบวนไปยังทำเนียบประธานาธิบดี
“เราแค่มาเดินขบวนอย่างสันติ แต่เรากลับถูกแก๊สน้ำตา เรามาดูให้เห็นว่าเราจะได้รับการต้อนรับอย่างไรในกรุงปารีส” นายคริสตอฟ ชาวบ้านจากภูมิภาคอิเซเร ภาคตะวันออก กล่าว
การประท้วงบนท้องถนนดังกล่าวยืดเยื้อมาตั้งแต่วันเสาร์ที่ 17 พ.ย. หลังรัฐบาลนายเอ็มมานูเอล มาครง ขึ้นภาษีน้ำมันดีเซลเพื่อต่อต้านการเพิ่มมลพิษ แต่ผู้ประท้วงเห็นว่า รัฐบาลไม่ควรมารีดภาษีจากคนรากหญ้า ควรต้องไปเก็บภาษีคนรวยมากกว่า
กลุ่มผู้ประท้วงจึงเรียกร้องให้รัฐบาลลดภาษีกลับไปตามเดิม โดยมีกลุ่มผู้ประท้วงผุดตามสถานที่ต่างๆ รวมแล้วทั่วประเทศเกือบ 3 แสนคน รวมถึงกลุ่มที่เข้าปิดทางด่วนมอเตอร์เวย์
ขณะที่ทางการส่งตำรวจราว 3,000 นายประจำการรักษาความปลอดภัยในปารีส พร้อมระบุว่า เหตุการณ์วุ่นวายครั้งนี้เชื่อมโยงกับกลุ่มขวาจัดที่ฉวยโอกาสจะสร้างความอับอายให้เจ้าหน้าที่
ก่อนหน้านี้เพิ่งเกิดเหตุระทึกที่เจ้าหน้าที่ฝรั่งเศสต้องเข้าเกลี้ยกล่อมชายอายุ 45 ปีสวมอุปกรณ์ระเบิดแขวนเทียนชนวนรอบคอ บริเวณที่ล้างรถในห้างสรรพสินค้าเมืองอองแฌรส์ เรียกร้องให้รัฐบาลยอมรับข้อเสนอของกลุ่มผู้ประท้วงเข้าเจรจาที่ทำเนียบ เจ้าหน้าที่ใช้เวลาเจรจาเกลี้ยกล่อมหลายชั่วโมงจนสำเร็จ และว่าสถานการณ์เสี่ยงมาก เพราะผู้ประท้วงใช้ระเบิดจริง
++++++
อ่านข่าวก่อนหน้านี้ :
เจ็บทะลุ 500 ม็อบฝรั่งเศสต้านน้ำมันแพง ชวนคนชุมนุมใหญ่ในกรุงปารีส