เมื่อวันที่ 19 ม.ค. เอเอฟพีรายงานวิกฤตการณ์การเมืองที่ประเทศแกมเบีย ในทวีปแอฟริกา หลังผู้นำเผด็จการไม่ยอมลงจากอำนาจ ทั้งที่พ่ายแพ้การเลือกตั้ง ตั้งแต่เมื่อปลายปี 2559 ทำให้กลุ่มประเทศแอฟริกาต้องเข้าไปช่วยทวงอำนาจให้ผู้ชนะ ส่วนผู้นำกองทัพแกมเบียยืนยันจะไม่เข้าแทรกแซงศึกการเมือง

ถนนในกรุงบันจุลว่างเปล่า ขณะเกิดวิกฤตทางเารมือง REUTERS/Afolabi Sotunde

นายพลอุสมาน บัดเจีย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพแกมเบีย ประกาศว่า กองทัพแกมเบียจะไม่เข้าไปยุ่ง เพราะถือเป็นความขัดแย้งทางการเมือง อีกทั้งตนรักทหารในกองทัพ จะไม่เอาชีวิตของทหารเข้าไปข้องแวะกับการต่อสู้โง่ๆ

วิกฤตครั้งนี้เกิดจากประธานาธิบดี ยาห์ยา จัมมีห์ไม่ยอมลงจากอำนาจ ทั้งที่แพ้เลือกตั้งชัดเจน อ้างว่า มีความผิดปกติในการเลือกตั้ง พร้อมประกาศภาวะฉุกเฉิน เพิกเฉยต่อเส้นตายของสมาชิก 15 ประเทศ ในกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจแห่งรัฐแอฟริกาตะวันตก หรืออีโควาส ให้ส่งมอบอำนาจให้นายอดามา บาร์โรว ผู้ชนะการเลือกตั้ง ภายในวันที่ 19 ม.ค. ไม่เช่นนั้นจะนำกองทัพบุก โดยมีคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็นเอสซี สนับสนุนอีโควาส แต่ขอให้ใช้กระบวนการทางการเมืองก่อน

ต่อมานายบาร์โรวเดินทางไปทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งที่สถานเอกอัครราชทูตแกมเบียในประเทศเซเนกัล ภายในห้องเล็กๆ ที่มีคนเข้าร่วมราว 20 คน แต่มีการถ่ายทอดสดผ่านจอภาพขนาดใหญ่ ขณะที่กลุ่มอีโควาสรับรองนายบาร์โรวเป็นผู้นำของแกมเบียแล้ว

นายบาร์โรว สาบานตนรับตำแหน่งผู้นำ นอกประเทศ

ด้านนักท่องเที่ยวต่างพากันอพยพออกจากแกมเบีย โดยรัฐบาลอังกฤษ และเนเธอร์แลนด์ ออกประกาศเตือนให้พลเมืองของตนหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังแกมเบีย ขณะที่ชาวอังกฤษกว่า 1,000 คน อยู่ระหว่างอพยพด้วยสายการบินพาณิชย์ที่รัฐบาลเช่าเหมาลำ ที่ท่าอากาศยานขนาดเล็กใกล้กรุงบันจูล บรรยากาศเต็มไปด้วยความโกลาหล

ส่วนชาวแกมเบียต่างพากันกักตุนอาหารและน้ำดื่ม รวมทั้งเก็บตัวอยู่ภายในบ้าน นักวิเคราะห์มองว่า การประกาศภาวะฉุกเฉินของแกมเบียจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวซึ่งเป็นรายได้หลักของแกมเบีย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน