ด.ช.เขมรพูดคล่อง16ภาษา ตามอัพเดตชีวิต-คลิปส่งโอกาสลืมตาอ้าปาก

ด.ช.เขมรพูดคล่อง16ภาษาเซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์ รายงานตามติดชีวิตของเด็กชายชาวกัมพูชาที่โด่งดังในชั่วข้ามคืน จากคลิปที่นักท่องเที่ยวสาวมาเลเซียบันทึกไว้และโพสต์ทางโซเชียลมีเดียจนมีผู้คนแชร์กันสะพัดทั่วโลกออนไลน์ ล่าสุด เด็กชายสาลิก อายุ 14 ปี ผู้เร่ขายของที่ระลึกที่นครวัด ด้วยการพูดภาษาต่างๆ ได้คล่อง 16 ภาษา รวมถึงภาษาไทย เดินทางไปทำพาสปอร์ตพร้อมแม่ เพื่อจะเดินทางไปออกรายการที่ประเทศจีน ตามคำเชิญของสถานีโทรทัศน์

อ่านข่าว : ด.ช.กัมพูชาขายของที่ระลึกพูดได้16ภาษา คนแห่ชม 4 วัน 5 ล้านวิว!!

สาลิกได้เดินทางไปกรุงพนมเปญครั้งแรก พร้อมแม่และน้องชาย เพื่อไปทำพาสปอร์ต สำหรับการเดินทางออกนอกประเทศครั้งแรก

เด็กชายให้สัมภาษณ์เซาท์ไชน่า มอร์นิงโพสต์ด้วยว่า ไม่รู้เลยว่าตอนนั้นนักท่องเที่ยวถ่ายคลิปตนเองอยู่ระหว่างการชวนคุยให้ตนเองพูดขายของหลายๆ ภาษา

ด.ช.เขมรพูดคล่อง16ภาษา

South China Morning Post

“ผมเห็นนักท่องเที่ยวคนนั้นเดินเข้าไปยังปราสาทตาพรหม ก็เลยเดินตามไป ตอนแรกเธอพูดภาษาไทยกับผม บอกว่าไม่ได้อยากซื้อของจากเด็กๆ ผมก็เลยพูดไทยต่อกับเธอ แต่จู่ๆ เธอก็เปลี่ยนพูดภาษาจีน แล้วก็พูดจีนสามแบบ แล้วก็พูดสเปน เยอรมัน อังกฤษ ผมก็เลยพูดกับเธอต่อตามภาษาที่พูดมา” เด็กชายสาลิก กล่าวให้สัมภาษณ์เป็นภาษาเขมร

“ผมมารู้ว่าเธอถ่ายคลิปผม ตอนที่คนขับรถตุ๊กตุ๊กบอกว่า ผมดังใหญ่แล้วนะ คลิปแชร์กันว่อนในเฟซบุ๊ก ผมก็เลยเข้าไปดูและเห็นตัวเองเป็นครั้งแรก”

สาลิกกำลังจะมีโอกาสพลิกผันชีวิตยากจน South China Morning Post

หลังจากคลิปวิดีโอเผยแพร่ไปทั่ว นักท่องเที่ยวชาวจีนคนอื่นๆ ที่ไปเที่ยวนครวัด ก็เริ่มไปอุดหนุนของที่ระทึกจากเด็กชายสาลิกกันอย่างคึกคัก ส่วนสถานีโทรทัศน์ของจีนก็เชิญเด็กและแม่ไปออกรายการที่เมืองจีน แต่ยังอยู่ระหว่างการต่อรอง เพราะเด็กอยากให้พ่อและน้องชายไปด้วย

ขณะเดียวกันนักธุรกิจกัมพูชาคนหนึ่งที่ไม่ต้องการเปิดเผยตัว เสนอให้สาลิกและน้องชายไปเรียนหนังสือที่พนมเปญ รวมถึงอยากจะช่วยให้ครอบครัวนี้ย้ายไปอยู่ในเมืองหลวงเพื่อจะได้หาที่ทางการงานให้ทำ พ้นจากความยากจน

นอกจากภาษาเขมรที่เป็นภาษาของตนเอง สาลิกกล่าวว่า ทักษะภาษาอังกฤษของตนเองนั้นเรียนที่โรงเรียน ส่วนภาษาอื่นๆ รวมแล้ว 15 ภาษา เช่น จีนกลาง หรือแมนดาริน รัสเซีย เวียดนาม เกาหลี ญี่ปุ่น เยอรมัน ไทย สเปน ฯลฯ เรียนรู้จากนักท่องเที่ยว ส่วนน้องชายของสาลิก ชื่อ ธุช ทิธยะ พูดภาษาขั้นพื้นฐานได้ 12 ภาษา จากการฝึกฝนกับพี่ชาย

“ผมจะถามนักท่องเที่ยวว่าเชามาจากไหนและก็คุยอื่นๆ จากนั้นก็จำเอา หลายๆ ครั้งก็ถามพี่สาลิกว่าคำนี้คำนั้นหมายถึงอะไร ไม่ก็ถามไกด์” ทิธยะกล่าว

ด้านนางมันน์ วันนา แม่ของเด็กๆ กล่าวว่า ไม่นึกเลยว่าสาลิกจะโด่งดังถึงขนาดนี้

“ฉันภูมิใจในตัวลูกมาก ก่อนจะเห็นคลิปวิดีโอ ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าลูกพูดภาษาอื่นได้อีก 15 ภาษา ตอนที่เขาอายุ 7-8 ขวบ ฉันให้เขาไปเรียนภาษาอังกฤษ แต่เรียนไม่ได้เกินปีสองปี เพราะฉันก็ไม่มีเงินจะให้เขาเรียนต่อ” นางมันน์กล่าว

นางมันน์และนายซัน วุฒิ สามี อายุ 41 ปี มีอาชีพขายรูปภาพและรูปถ่ายนครวัด ทั้งสองย้ายมาอยู่เสียมเรียบตั้งแต่สิบกว่าปีก่อน หวังว่าจะหารายได้จากการท่องเที่ยว นายซันมีรายได้ไม่เกินวันละ 300 บาทและก็ไม่มีรายได้อื่นอีก

ชีวิตของครอบครัวนี้เหมือนกับอีกหลายครอบครัวที่ขายของที่ระลึกในนครวัด ล้วนมีหนี้สินและรายได้น้อย

“เราซื้อที่ดินและสร้างบ้าน แต่มันกลับกลายเป็นเรื่องยากที่จะหาเงิน มีช่วงที่ฉันขายของได้ไม่ถึง 1 ดอลลาร์ (33 บาท) ในหลายสัปดาห์ แ่ต่เราต้องจ่ายเงินให้เจ้าหน้าที่ที่อนุญาตให้เข้าไปขายบริเวณนครวัด 5 ดอลลาร์ (165 บาท)” นางมันน์กล่าว

หญิงสาวกล่าวต่อว่า ครอบครัวมีหนี้สินสูงถึง 5 หมื่นดอลลาร์ หรือราว 1.65 ล้านบาท จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะส่งลูกไปเรียนโรงเรียนเอกชนเพื่อฝึกภาษา ครอบครัวยังต้องไปกู้เงินนอกระบบ ดอกเบี้ยสูงกว่า 15-20% เพื่อนำเงินไปรักษาแม่ที่ส่งไปรักษาอาการป่วยที่เมืองไทย

“ตอนนี้ฉันติดหนี้เจ้าหนี้เงินกู้รายย่อยอยู่ 3 หมื่นดอลลาร์ (990,000 บาท) ติดหนี้ธนาคารอยู่ 2 หมื่นดอลลาร์ (660,000 บาท) ธนาคารสั่งให้เราผ่อนเดือนละ 700 ดอลลาร์ (23,100 บาท) ถ้าฉันไม่จ่าย เขาก็จะทบดอกอีก ฉันไม่อยากให้ทำแบบนั้นเลย” แม่ของเด็กชายเก่งภาษา กล่าว

นางมันน์กล่าวด้วยว่า เราไม่มีทางเลือกเลย แม้ว่าลูกๆ จะฉลาดทุกคน และมีจิตใจงาม อย่างสาลิกก็อยากจะช่วยครอบครัวหาเงิน พอไปเรียนตอนเช้าเสร็จ ตอนบ่ายก็มาช่วยขายของทำมาตั้งแต่อายุ 10 ขวบแล้ว ส่วนสีหะ พี่ชายเขา วาดรูปเก่งมาก ตอนนี้อายุ 16 ปีแล้ว อยากเป็นสถาปนิก แต่เรายากจนขนาดนี้ ไม่รู้จะช่วยลูกบรรลุความฝันได้อย่างไร

จากสถิติข้อมูลของยูนิเซฟ ปี 2557 เด็กๆ ในกัมพูชาเกือบ 4 ล้านคน อายุระหว่าง 5-17 ปี นั้น มีเพียง 19% ที่พอมีฐานะมีกินมีใช้ และตัวเลขนี้ก็ยังไม่เปลี่ยนแปลงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

นายรง ชวน ประธานสมาคมครูเอกชนกัมพูชา กล่าวว่า เด็กๆ อย่างสาลิกและทิธยะควรได้โอกาสที่จะมุ่งมั่นเรียนหนังสือ แต่ความที่ครอบครัวยากจนมาก ถ้าเป็นประเทศอื่น เด็กที่มีความสามารถอย่างสาลิกคงได้รับเลือกจากรัฐให้เข้าเรียนพิเศษ เพื่อสนับสนุนทักษะและความสามารถ

“เสียมเรียบเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของกัมพูชา เป็นมรดกโลกที่มีนักท่องเที่ยว 2 ล้านคนต่อปี มีเงินหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย แต่รัฐบาลกลับไม่สามารถกระจายผลประโยชน์นี้ให้คนจนได้เลย ครอบครัวที่มีฐานะยากจนไม่มีทางเลือก นอกจากให้ลูกๆ มาขายของหารายได้เลี้ยงชีพ”

สาลิกเป็นเพียงเด็กไม่กี่คนที่โชคดี ได้รับความสนใจและข้อเสนอช่วยเหลือมากมาย ทำให้พ่อแม่ดีใจมาก และหวังจะทำให้ลูกๆ ได้ร่ำเรียนหนังสือและมีโอกาสหางานที่ดีขึ้นในอนาคต

“ความฝันของผมคือได้เป็นไกด์ทัวร์ ผมจะฝึกภาษาจีน อังกฤษ และไทยให้เก่งขึ้น” เด็กชายสาลิกกล่าวและว่า อยากให้เด็กทุกคนที่ขายของที่ระลึกเหมือนตนได้รับโอกาสแบบเดียวกัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน