ปลื้มปริ่ม! เอเชียครองเมืองท่องเที่ยวโลก “ฮ่องกง” รั้งแชมป์ “กรุงเทพฯ” ไม่น้อยหน้าคว้าที่ 2

ปลื้มปริ่ม! เอเชียครองเมืองท่องเที่ยวโลก – วันที่ 4 ธ.ค. เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ เปิดเผยรายงานการจัดอันดับ 100 เมืองปลายทางการท่องเที่ยว ประจำปี 2018 ของบริษัทวิจัยการตลาด ยูโรมอนิเตอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ในอังกฤษ โดยสำรวจข้อมูลการเดินทางและจำนวนของนักท่องเที่ยวต่างชาติจาก 600 เมืองทั่วโลกในช่วงปี 2017

พบว่าเอเชียยังครองแชมป์ภูมิภาคแห่งการท่องเที่ยวด้วย 41 เมืองที่ติดทำเนียบสำรวจ โดย 10 อันดับเมืองชั้นนำที่นักท่องเที่ยวเลือกเดินทางไปนั้น

อันดับ 1 เป็นของแชมป์เก่าฮ่องกง รองลงมาในอันดับ 2 คือ กรุงเทพฯ ประเทศไทย อันดับ 3 กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ อันดับ 4 สิงคโปร์ อันดับ 5 มาเก๊า อันดับ 6 กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส อันดับ 7 นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) อันดับ 8 นครนิวยอร์ก สหรัฐอมริกา อันดับ 9 กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย และอันดับ 10 เมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน

ปลื้มปริ่ม! เอเชียครองเมืองท่องเที่ยวโลก

Victoria Harbour is a natural landform harbour separating Hong Kong Island in the south from the mainland to the north. The harbour’s deep, sheltered waters and strategic location on the South China Sea were instrumental in Hong Kong’s establishment as a British colony and its subsequent development as a trading centre. /easyvoyage.com/

สำหรับท็อปเทนเมืองเอเชียนั้น ฮ่องกงซึ่งแน่นอนว่าอยู่ในอันดับ 1 มีนักท่องเที่ยว 27.8 ล้านคน กรุงเทพฯ ต้อนรับผู้มาเยือนกว่า 22.4 ล้านคน สิงคโปร์มี 17.6 ล้านคน มาเก๊า 17.3 ล้านคน กัวลาลัมเปอร์มี 12.8 ล้านคน เซินเจิ้น 10 ล้านคน

อันดับ 7 ในเป็นจังหวัดภูเก็ต ของไทย (อันดับ 11 ของโลก) มีนักท่องเที่ยว 11.6 ล้านคน อันดับ 8 เดลี ประเทศอินเดีย (อันดับ 13 ของโลก) มี 10.1 ล้านคน อันดับ 9 กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น (อันดับ 14 ของโลก) มี 9.5 ล้านคน และอันดับ 10 กรุงไทเป ของไต้หวัน (อันดับ 17 ของโลก) มี 9.2 ล้านคน

ทั้งนี้ นักวิจัยเตือนว่าแม้นักท่องเที่ยวจีนแผ่นดินใหญ่จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันอุตสาหกรรมม่องเที่ยวของโลก เพราะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีจำนวนมากที่สุด และยังมีทิศทางการเงินที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่สงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐที่ยังตึงเครียด

ปลื้มปริ่ม! เอเชียครองเมืองท่องเที่ยวโลก

Grand Palace & Wat Prakeaw in Bangkok, Thailand. /viaggianza.com/

แม้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ และ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน จะตกลงชะลอกการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าระหว่างกันในระยะเวลา 90 วัน แต่สถานการณ์ยังตึงเครียด และจะมีผลกระทบทำให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวโลกสูญเสียเม็ดเงิน 1,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 58,000 ล้านบาท

ประเทศไทยอาจได้รับผลกระทบมากที่สุด และสูญเสียรายได้กว่า 7,400 ล้านบาท ฮ่องกงจะสูญเสียราว 7,200 ล้านบาท และญี่ปุ่นที่ 7,100 ล้านบาท

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน