เมื่อวันที่ 24 ม.ค. สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานผลกระทบกรณีประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำใหม่ของสหรัฐอเมริกา นำสหรัฐถอนตัวจากข้อตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก หรือทีพีพี สร้างความตึงเครียดให้บรรดาชาติคู่ค้าของสหรัฐทั้ง 11 ประเทศ ว่าจากนี้ไปคำถามจะอยู่ที่ว่า แล้วทีพีพีจะเป็นอย่างไรต่อไป

 

จากการที่สหรัฐรวมอยู่ในกลุ่มทีพีพีเดิม ได้แก่ ออสเตรเลีย บรูไน แคนาดา ชิลี ญี่ปุ่น มาเลเซีย เม็กซิโก นิวซีแลนด์ เปรู สิงคโปร์ และเวียดนาม ทำให้มูลค่าการค้าของกลุ่มนี้ครอบคลุมสัดส่วนมูลค่าการค้าโลกถึงร้อยละ 40 อีกทั้งยังตรงกับเป้าหมายของรัฐบาลบารัก โอบามาที่ต้องการปักหมุดในเอเชีย เพื่อเสริมบารมีแข่งกับจีน

แม้ว่าการเปิดการค้าเสรีในกลุ่มนี้จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของชาติสมาชิก แต่ทรัมป์กลับเดินหน้าถอนตัวออกมา

มีเสียงวิจารณ์ว่า การที่ทรัมป์นำสหรัฐถอนตัวออกมาเพราะผลประโยชน์ที่กลุ่มธุรกิจยักษ์ใหญ่ในอเมริกาได้จากข้อตกลงทีพีพีนั้นมีเล็กน้อย อีกทั้งอุตสาหกรรมของอเมริกาอาจได้รับผลกระทบจากประเทศคู่ค้าที่มีสินค้าเกษตรด้านอาหารที่ถูกกว่าทะลักเข้าไปในอเมริกา

หนทางจากนี้ไป ทางแรกคือ สมาชิก 11 ประเทศที่เหลือต้องผลักดันข้อตกลงให้เดินหน้าต่อไป หรืออย่างออสเตรเลียที่เห็นว่า เมื่อสหรัฐไม่อยู่แล้ว ควรเปิดประตูให้จีนเข้ามาแทน

ตัวเลือกที่เป็นไปได้อีกทางคือเปิดการเจรจาใหม่กับรัฐบาลในการบริหารของทรัมป์ เพื่อชักจูงผลประโยชน์ที่ดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ระบุว่า สหรัฐจะใช้กลับไปสู่การเจรจาการค้าแบบทวิภาคีแทน หากชาติคู่ค้าใดที่มีพฤติกรรมไม่ถูกใจสหรัฐจะส่งจดหมายเตือนให้ปรับปรุงภายใน 30 วัน หากไม่ทำตามสหรัฐก็จะยุติการค้าด้วยทันที

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน