เด็กหญิงผู้อพยพ7ขวบดับ รอนแรมมาตายในสหรัฐ หลังถูกกักตัว8ชั่วโมง
เด็กหญิงผู้อพยพ7ขวบดับ – วันที่ 15 ธ.ค. เอพี รายงานว่า กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐอเมริกาเปิดการสอบสวนหาสาเหตุการเสียชีวิตกรณีเด็กหญิงชาวกัวเตมาลา อายุ 7 ขวบ เสียชีวิตขณะถูกควบคุมตัว 8 ชั่วโมงที่ด่านตรวจข้ามพรมแดน ในพื้นที่ของสหรัฐ
โศกนาฏกรรมดังกล่าวก่อให้เกิดปฏิกิริยาด้านลบและความแคลงใจต่อเจ้าหน้าที่สหรัฐอย่างกว้างขวาง จากนโยบายการอพยพเข้าเมืองที่ไม่ประนีประนอมของนายโดนัลด์ ทรัมป์ รวมถึงการปฏิบัติต่อผู้อพยพที่เดินทางจากภูมิภาคอเมริกากลางไปพรมแดนสหรัฐ
แฟ้มภาพ อาคารตรวจคนเข้าเมือง แอนทีโลปเวลส์ บริเวณชายแดนสหรัฐ ติดพรมแดนเม็กซิโก สถานที่ที่เจ้าหน้าที่ลาดตระเวนพบพ่อลูกจากกัวเตมาลา (Roberto E. Rosales/The Albuquerque Journal via AP)
ข้อมูลเบื้องต้นจากหน่วยงานตรวจตราพรมแดนและศุลกากรสหรัฐ หรือ ซีบีพี ระบุว่า พ่อลูกคู่นี้เข้าเมืองกับพ่อมาอย่างผิดกฎหมาย เมื่อช่วงค่ำวันที่ 6 ธ.ค. เด็กหญิง เจกลีน อาเม โรสมารี คาล มาควิน ถูกนำเข้ากระบวนการคัดกรองและพบว่าไม่มีปัญหาสุขภาพ ก่อนถูกกักในสถานที่ที่มีอาหาร น้ำ และห้องน้ำหลายห้อง
ต่อมาถูกพาขึ้นรถบัสพร้อมพ่อ ไปยังจุดตรวจพรมแดนที่ใกล้ที่สุดระยะทาง 151 กิโลเมตร แต่เด็กหญิงเริ่มอาเจียนขณะอยู่บนรถ ต่อมาหยุดหายใจ เมื่อถึงจุดตรวจ เด็กหญิงได้รับการรักษาฉุกเฉินและฟื้นคืนสติสองครั้ง ขณะมีไข้ 40.9 องศาเซลเซียส ก่อนถูกนำตัวส่งทางเครื่องบินไปโรงพยาบาลในเมืองเอลปาโซ รัฐเท็กซัส ต่อมาเสียชีวิตจากอาการหัวใจวายและถูกวินิจฉัยว่าสมองบวมและตับล้มเหลว
แฟ้มภาพ เจ้าหน้าที่ลาดตระเวนชายแดนสหรัฐ ที่เทือกเขาแอนิมัส รัฐนิวเม็กซิโก (Roberto E. Rosales/The Albuquerque Journal via AP, File)
นายเควิน เค. แม็กอลีนอัน ผู้ตรวจการซีบีพีระบุ ว่า เจ้าหน้าที่ทำทุกสิ่งที่อยู่ในความรับผิดชอบเพื่อให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินแล้วและว่าเรายินดีต่อการสอบสวนของกระทรวง สมาชิกพรรคเดโมแครตหลายคนเรียกร้องให้นายเควิน ลาออก
ด้านนางฮิลลารี คลินตัน อดีตรมว.ต่างประเทศ ระบุว่าเหตุการณ์นี้เป็นส่วนหนึ่งของวิกฤตมุนษยธรรม และสมาชิกพรรคเดโมแครตหลายคนเรียกร้องให้นายเควินลาออก
ทั้งนี้ สองสัปดาห์มานี้ มีผู้อพยพราว 7,500 คนมุ่งหวังที่จะตั้งรกรากในอเมริกา แม้สหรัฐระบุว่าหากเข้าเมืองมาอย่างผิดกฎหมายจะถูกเนรเทศออกไป แต่หลายคนยอมเสี่ยงเพื่อหนีจากปัญหาเลือกปฏิบัติ ความรุนแรงและความยากจนในประเทศบ้านเกิด
………………….
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
