พ้นความผิด แม่จุดไฟเผา-กดน้ำฆ่าลูกสาว4ขวบ คณะลูกขุนชี้ “วิกลจริต”
พ้นความผิด – เมื่อ 17 ธ.ค. เมโทร รายงานความคืบหน้ากรณีที่นางแคร์ลีย์ แอน แฮร์ริส สาวอังกฤษวัย 38 ปี ก่อเหตุจุดไฟเผาและกดน้ำด.ญ.อาเมเลีย อายุ 4 ขวบ ในอ่างอาบน้ำจนเสียชีวิต เพื่อบูชาพระเจ้า ที่เมืองทรีซลอว์ แคว้นเวลส์ ประเทศอังกฤษ เมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา
ล่าสุด คณะลูกขุนจากศาลนิวพอร์ตทาวน์ตัดสินให้นางแฮร์ริสไม่มีความผิดฐานฆาตกรรมลูกสาว เนื่องจากอยู่ในภาวะวิกลจริต และศาลสั่งให้นางแฮร์ริสเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลอย่างไม่มีกำหนด
เหตุดังกล่าวที่เป็นรับรู้เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. หลังจากเพื่อนบ้านเห็นนางแฮร์ริสยืนอยู่ในสวนหน้าบ้าน มีอาการมึนเมาและบอกกับเพื่อนบ้านว่า “พระเจ้าจะอยู่กับเธอ นางฟ้าเอาเธอไปแล้ว” เพื่อนบ้านจึงโทร.แจ้งตำรวจ จากนั้นเดินเข้าไปในสวนหลังบ้านของนางแฮร์ริส
เพื่อนบ้านพบศพด.ญ.อาเมเลียในสภาพถูกไฟลวก นอนอยู่บนโต๊ะกาแฟที่มีผ้าปูไว้ และเมื่อตำรวจรุดมาที่เกิดเหตุ นางแฮร์ริสพูดว่า “นางฟ้าบอกให้ฉันทำ โอเค ก็จับฉันสิ”
ลูกชายคนหนึ่งของนางแฮร์ริสเผยว่า แม่มีอาการไม่ดีในช่วง 6 สัปดาห์ ก่อนเกิดเหตุสลด ขณะที่แพทย์สรุปว่าด.ญ.อาเมเลียเสียชีวิตจาการจมน้ำและถูกจุดไฟเผา
นางแฮร์ริสให้การปฏิเสธทั้งข้อหาฆาตกรรม และฆาตกรรมโดยไม่ไตร่ตรองไว้ก่อน แต่ศาลบอกกับคณะลูกขุนว่า นางแฮร์ริสฆ่าลูกสาวตัวเองโดยปราศจากข้อสงสัยจริง แต่ศาลขอให้คณะลูกขุนตัดสินว่า นางแฮร์ริสไม่ได้มีความผิดฐานฆาตกรรมเนื่องด้วยอยู่ในภาวะวิกลจริต หรือมีความผิดฐานฆาตกรรมโดยไม่ไตร่ตรองไว้ก่อนอันเป็นเหตุให้ลดหย่อนโทษได้
ปรากฏว่าคณะลูกขุนมีมติกลับความเห็นในอีก 1 ชั่วโมง หลังจากนั้น ให้นางแฮร์ริสไม่มีความผิดฐานฆาตกรรมลูกสาว 4 ขวบ เนื่องด้วยอยู่ในภาวะวิกลจริต
นายจัสติส พิกเคน ผู้พิพากษาไต่สวนคดีนี้ บอกกับคณะลูกขุน 12 คน ที่ประกอบด้วยผู้หญิงและผู้ชายอย่างละ 6 คน ว่า คณะลูกขุนมีสิทธิสามารถกลับคำตัดสินความผิดในคดีลักษณะดังกล่าวได้ เนื่องจากผู้กระทำความผิดอยู่ในภาวะวิกลจริต
มีรายงานว่า นางแฮร์ริสฆ่าลูกในไส้ เป็นผลพวงจากการเสพแอมเฟตามีน หรือยาบ้า เข้าไปในปริมาณ “เล็กน้อย” แต่มีผู้เชี่ยวชาญออกมาโต้แย้งว่า นางแฮร์ริสไม่ได้มีอาการวิกลจริตเพราะเสพยาบ้า
ดร.อาร์เดน โทมิสัน จิตแพทย์ ผู้ตรวจวินิจฉัยนางแฮร์ริสว่าเป็นโรคจิตเภท เผยว่า ในเวลานั้น นางแฮร์ริสมีความผิดปกติของการทำงานทางจิต ที่ทำให้ความสามารถในการตัดสินใจอย่างเป็นเหตุเป็นผล บกพร่องไปอย่างมาก
ดร.โทมิสันกล่าวว่า นางแฮร์ริสประสบกับภาวะความหลงผิดจากความหวาดระแวงและความเชื่อทางศาสนา โดยเชื่อว่าตัวเองต้องฆ่าลูกสาวเพื่อรักษาโลกใบนี้ไว้ และเชื่อว่าพระเจ้าได้ทดสอบตัวเอง โดยจะนำลูกสาวไปแล้วจะคืนให้ภายหลัง
ดร.โทมิสันกล่าวต่อว่า จากการทดสอบจิตใจล่าสุดเมื่อเดือนที่แล้ว นางแฮร์ริสยังยึดมั่นในความเชื่อที่ว่าเธอจำเป็นต้องฆ่าลูกสาวตัวเองเพื่อปกป้องเธอและรักษาโลกใบนี้ไว้ แม้ว่าทีมแพทย์จากสถาบันความปลอดภัยพยายามควบคุมอาการจิตเภทของนางแฮร์ริสแล้ว แต่ไม่ได้ผล เธอยังมีความเชื่อผิดๆ และน่ากลัวแบบนี้ต่อไป ดังนั้นจึงมั่นใจว่า นางแฮร์ริสมีอาการวิกลจริตอย่างชัดเจน
“เธอไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเข้ารับการบำบัดรักษาอาการทางจิต เธอมั่นใจมาก (ถึงการกระทำของเธอ) ว่านี่เป็นบัญชาของพระเจ้าที่มีต่อเธอ” ดร.โทมิสันกล่าว
ส่วนจิตแพทย์อีกรายคือ ดร.ฟิลลิป โจเซฟ มีความคิดเห็นว่า นางแฮร์ริสเป็นโรคจิตเภทหลังติดเชื้อทางเดินปัสสาวะเมื่อปี 2557 และเชื่อว่านางแฮร์ริสมีอาการจิตเภทเนื่องจากเสพยาบ้า ส่วนความคิดเห็นของดร.โจเซฟ ดร.โทมิสันบอกว่ามีความเป็นไปได้ แต่อาจน้อยมาก
