ปูตินย้ำอาวุธรัสเซียไร้เทียมทาน – ทรัมป์เซ็นคำสั่งตั้งกองทัพอวกาศ

ปูตินย้ำอาวุธรัสเซียไร้เทียมทานเดลีเมล์ รายงานเจาะลึกคำแถลงของ ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ถึงอาวุธใหม่ของกองทัพ ในการประชุมผู้นำกองทัพ ที่กรุงมอสโก เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. ว่า ว่าไม่มีชาติใดในโลกที่มีแสนยานุภาพเทียบเท่ารัสเซียอีกแล้ว และว่าถ้าสหรัฐอเมริกาถอนตัวจากสนธิสัญญาควบคุมอาวุธนิวเคลียร์พิสัยกลาง หรือ INF Treaty รัสเซียพร้อมทันทีที่จะพัฒนาขีปนาวุธยิงจากภาคพื้นดิน

สนธิสัญญา INF ดังกล่าว เป็นการลงนามคู่กันระหว่างนายมิกฮาอิล กอร์บาชอฟ อดีตประธานาธิบดีแห่งสหภาพโซเวียต กับประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกน ผู้นำสหรัฐ เมื่อปี 2530 นายปูตินกล่าวว่า หากสหรัฐถอนตัว จะถือว่าก้าวไปสู่การแข่งขันพัฒนาอาวุธ หรือสงครามเย็นครั้งใหม่ของโลก

ประธานาธิบดีปูตินยังกล่าวถึง ขีปนาวุธกินซาล (Kinzhal) ซึ่งมีความเร็วเหนือเสียง ที่มีการทดสอบให้ฮือฮาเมื่อ 9 เดือนก่อน และระบบส่งหัวรบแบบร่อนที่ความเร็วเหนือเสียง อาวองการ์ด จะช่วยรักษาความมั่นคงของรัสเซียได้อีกยาวนานหลายสิบปี

นายเซอร์เก ชอยกู รมว.กลาโหมรัสเซีย กล่าวว่า ขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงรุ่นกินซาลถูกนำเข้าประจำการแล้วโดยกองทัพรัสเซีย โดยเครื่องบินทิ้งระเบิดเชิงยุทธศาสตร์ที่ได้รับการติดตั้งขีปนาวุธกินซาลขึ้นบินแล้ว 89 ครั้ง ในภารกิจลาดตระเวน ส่วนระบบส่งหัวรบความเร็วเหนือเสียง อาวองการ์ด จะเข้าประจำการในปี 2562

ปูตินย้ำอาวุธรัสเซียไร้เทียมทาน

Russian President Vladimir Putin p (Photo by Mikhail KLIMENTYEV / SPUTNIK / AFP)

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวสอดคล้องกับท่าทีก่อนหน้าของประธานาธิบดีปูติน ที่อ้างว่า รัสเซียประสบความสำเร็จในการพัฒนาระบบส่งหัวรบที่มีอัตราเร็วในการเคลื่อนที่มากกว่าอัตราเร็วของเสียงเป็น 20 เท่า และปล่อยขึ้นจากขั้วโลกเหนือและใต้ได้ภายในระยะเวลาไม่กี่นาทีหลังได้รับคำสั่ง ส่งผลให้หัวรบที่ได้รับการติดตั้งสามารถฝ่าระบบป้องกันขีปนาวุธที่ดีที่สุดในปัจจุบันได้อย่างเด็ดขาด

หัวรบ อาวองการ์ด / TASS

ระบบดังกล่าวจะนำมาใช้กับขีปนาวุธข้ามทวีป หรือไอซีบีเอ็ม ที่จะพาขีปนาวุธขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศโลกและร่อนไปยังเป้าหมาย โดยมีระบบที่ออกแบบมาเพื่อฝ่าการป้องกันของข้าศึก อาทิ ระบบนำร่องแบบสุ่มเส้นทาง และระดมยิงแบบหลายหัวรบพร้อมกัน

ทั้งหมดส่งผลให้ป้องกันได้ยากและแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะตรวจหาและติดตาม ทำให้ผู้นำรัสเซีย กล่าวชื่นชมระบบอาวุธใหม่ดังกล่าวของกองทัพรัสเซียว่า “ไร้เทียมทาน” เมื่อเดือนมี.ค. เพราะพุ่งเข้าหาเป้าหมายเหมือนกับดาวหางพุ่งตกใส่โลกด้วยความเร็วเหนือเสียง 20 เท่า

Russian MiG fighter jet เครื่องบินรุ่นนี้พร้อมสำหรับใช้ยิงอาวุธนิวเคลียร์ / TASS

วันเดียวกัน เอ็นบีซีนิวส์ รายงานความเคลื่อนไหวของสหรัฐอเมริกา ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ลงนามในคำสั่งให้กระทรวงกลาโหม หรือเพนตากอน เริ่มดำเนินการจัดตั้ง ศูนย์บัญชาการกองทัพอวกาศ หรือ ยูเอส สเปซ คอมมานด์ แล้ว

ศูนย์ดังกล่าวจะมีหน้าที่สั่งการภารกิจการรบในอวกาศของกองทัพสหรัฐ คาดหมายว่าจะต้องใช้งบประมาณสูงถึง 800 ล้านดอลลาร์ หรือราว 26,500 ล้านบาท ในช่วง 5 ปีของการตั้งต้น

นายไมก์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวว่า คำสั่งดังกล่าวถือเป็นก้าวแรกในการสร้างกองทัพอวกาศของสหรัฐ ซึ่งจะถือเป็นสมรภูมิแห่งใหม่ของชาติมหาอำนาจ หลังสหรัฐเผชิญภัยคุกคามจากทั้งประเทศรัสเซียและจีน และกองทัพสหรัฐมีจุดอ่อนอยู่ที่ดาวเทียม หากถูกทำลายจะส่งผลให้ระบบอาวุธแทบทั้งหมดนั้นล่มสลายทันที

“จีนกำลังทดสอบขีปนาวุธที่มีขีดความสามารถในการทำลายดาวเทียมที่โคจรรอบโลก และกำลังร่วมมือกับรัสเซียเพื่อนำอาวุธดังกล่าวไปติดตั้งไว้กับดาวเทียมทางทหารในอวกาศ” เพนซ์ กล่าว

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน