สาวซาอุฯ หวังลี้ภัยออสซี่ แต่ไร้วีซ่า-ถูกจับที่สุวรรณภูมิ ลั่นถูกฆ่าตายแน่ๆ ถ้าส่งตัวกลับบ้านเกิด
สาวซาอุฯ – วันที่ 6 ม.ค. บีบีซี และ เอบีซี รายงานว่า น.ส.ราฮัฟ โมฮัมเหม็ด อัล-คูนุน หญิงชาวซาอุดีอาระเบีย อายุ 18 ปี กำลังเผชิญหน้ากับการถูกส่งตัวกลับประเทศ หลังหลบหนีจากครอบครัวซึ่งอยู่ระหว่างเดินทางไปประเทศคูเวต และพยายามต่อเครื่องบินจากสนามบินแห่งชาติสุวรรณภูมิของไทยเพื่อลี้ภัยไปออสเตรเลียเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา เพราะถูกครอบครัวทำร้ายอย่างหนักทางทางร่างกายและจิตใจ
แต่เนื่องจากไม่มีวีซ่าเข้าประเทศไทย เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องควบคุมตัวและเตรียมส่งกลับประเทศ ขณะที่หญิงสาวให้สัมภาษณ์ว่าเธอละทิ้งศาสนาอิสลามแล้ว และเกรงว่าถ้ากลับไปบ้านเกิดจะถูกคนในครอบครัวสังหาร
พลตำรวจโท สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กล่าวกับบีบีซีว่า น.ส.อัล-คูนุนหนีจาการแต่งงาน และเพราะไม่มีวีซ่าเข้าประเทศไทย ตำรวจจึงต้องควบคุมตัวไว้และอยู่ระหว่างขั้นตอนการส่งตัวกลับประเทศโดยสายการบินคูเวตแอร์ไลนส์ ซึ่งหญิงสาวโดยสารมายังประเทศไทยในตอนแรก
ด้าน นายโจนาธาน เฮด ผู้สื่อข่าวของบีบีซีระบุจากคำกล่าวของน.ส.อัลคูนุน ว่า รู้สึกตกใจและสับสนมาก ตนมีตั๋วเครื่องบินและวีซ่าเข้าประเทศออสเตรเลีย แต่หนังสือเดินทางถูกเจ้าหน้าที่ทางการทูตของซาอุฯ ยึดไว้ตอนพบกันหลังลงจากเครื่องบิน
ขณะเดียวกันน.ส.อัล-คูนุนใช้ทวิตเตอร์เป็นช่องทางในการแสดงตัวตนและขอความช่วยเหลือ โดยโพสต์ว่า “เพราะฉันไม่มีอะไรจะสูญเสียแล้ว ฉันจะแชร์ชื่อจริงและข้อมูลจริงๆ ของฉัน”
นอกจากนี้ยังโพสต์รูปถ่ายหนังสือเดินทางและข้อความว่า “เพราะฉันต้องการให้คุณรู้ว่าฉันเป็นฉันจริงๆ และฉันมีตัวตน ฉันชื่อราฮัฟ โมฮัมเหม็ด มุตลัก อัล-คูนุน นี่คือรูปของฉัน ฉันกลัว ครอบครัวของฉันจะฆ่าฉัน”
ด้านเอบีซีระบุว่าได้รับคลิปวิดีโอของน.ส.อัล-คูนุนซึ่งเป็นข้อความที่จะถูกเผยแพร่หากหญิงสาวหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
กรณีของน.ส.อัล-คูนุนตอกย้ำเหตุการณ์คล้ายกันของน.ส.ดีน่า อาลี ลาสลูม หญิงสาวชาวซาอุฯ วัย 24 ปี ที่เดินทางจากคูเวตมายังฟิลิปปินส์เมื่อปี 2560 จากนั้นหญิงสาวขอยืมโทรศัพท์มือถือของนักท่องเที่ยวชาวแคนาดาเพื่อโพสต์คลิปวิดีโอบนทวิตเตอร์ มีใจความว่าครอบครัวของเธอจะฆ่าเธอ แต่ไม่นานนักก็ถูกจับได้ที่สนามบินในกรุงมะนิลาและโดนส่งตัวกลับประเทศ ซึ่งไม่มีใครรู้ชะตากรรมของน.ส.ลาสลูมนับตั้งแต่นั้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง: