ชัตดาวน์ทุบสถิติ ลากยาวสุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ ซัดทรัมป์ก่อกำแพงร้าว
ชัตดาวน์ทุบสถิติ – เมื่อ 12 ม.ค. เอพี รายงานสถานการณ์ชัตดาวน์ หรือการปิดทำงานของหน่วยราชการบางส่วนของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา กระทบต่อพนักงานรัฐ 8 แสนคน เนื่องจากร่างงบประมาณแผ่นดินยังไม่ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา ในส่วนงบก่อสร้างกำแพงเหล็กกั้นชายแดนเม็กซิโก ตามความต้องการของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทำให้การชัตดาวน์ยืดเยื้อ 22 วันจนทำลายสถิติกินระยะเวลายาวนานที่สุด
สถิติเดิมของการชัตดาวน์เกิดขึ้นในยุคบิล คลินตัน พรรคเดโมแครตเป็นประธานาธิบดี เมื่อปี 2538 ข้ามเข้าสู่ปี 2539 รวมเวลา 21 วัน ตอนนั้นคลินตันต้องการจัดทำงบประมาณสมดุล แต่พรรครีพับลิกันต้องการให้ตัดลดงบประมาณลงอีกมาก
ส่วนสถานการณ์ข้ามปี 2561 มายังปี 2562 ครั้งนี้ สมาชิกสภาล่างและสภาสูงต่างลงมติให้จ่ายค่าจ้างคืนพนักงานรัฐทันที ในส่วนที่ยังทำงานต่อแม้จะไม่ได้เงินค่าจ้าง หากที่ทำการเปิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง หลังจากไม่มีการออกเช็กค่าจ้างให้พนักงานรัฐ งวดวันที่ 11 ม.ค.
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ กล่าวยืนยันระหว่่างการเดินทางเยือนชายแดนสหรัฐติดเม็กซิโก ว่าจะใช้มาตรการประกาศภาวะฉุกเฉินรับมือสถานการณ์ชัตดาวน์ และให้เกิดการสร้างกำแพงเหล็กกั้นผู้อพยพ งบประมาณก่อสร้าง 5,700 ล้านดอลลาร์ หรือราว 1.8 แสนล้านบาท
“ผมคิดว่าถ้าประนีประนอมได้ก็จะเป็นชัยชนะของทุกคน ถ้าไม่อย่างนั้นผมก็จะประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติ” นายทรัมป์กล่าวระหว่างเดินทางเยือนพื้นที่พรมแดน เมืองแม็กอัลเลน รัฐเท็กซัส
ด้าน นางแนนซี เพโลซี ประธานสภา พรรคเดโมแครต กล่าวว่า สถานการณ์ขณะนี้ไม่ใช่เรื่องกำแพงกั้นระหว่างเม็กซิโกกับสหรัฐอเมริกา แต่เป็นกำแพงกั้นความล้มเหลวในการบริหารงานของรัฐบาลนายทรัมป์ เป็นรอยแยกที่ใหญ่มาก และนายทรัมป์คือต้นตอของความแตกแยกนี้
……….
อ่านข่าวก่อนหน้านี้ :
ทรัมป์ร่ายยาว จะเอา1.8แสนล้านสร้างกำแพงเมือง ไม่อ่อนข้อฝ่ายค้าน