นางแบบกูรูเซ็กซ์ เปิดใจซีเอ็นเอ็น ติดคุกเมืองไทยเหมือน “นรก”
นางแบบกูรูเซ็กซ์ – วันที่ 29 ม.ค. ซีเอ็นเอ็น รายงานการสัมภาษณ์พิเศษ อนาสตาเซีย วาชูเควิช หรือ นาสเตีย ริบคา นางแบบชาวเบลารุส ผู้เข้ามาเปิดหลักสูตรอบรมทางเพศที่เมืองพัทยา เมื่อเดือนก.พ.2561 จนถูกจับดำเนินคดี พร้อมกับ นายอเล็กซานเดอร์ คีริลลอฟ กูรูเซ็กซ์ชาวรัสเซีย โดยทั้งสองติดคุกในไทยเกือบปี จากนั้นเมื่อถูกไทยเนรเทศออกมา ทั้งสองเดินทางไปต่อเครื่องที่รัสเซีย ก็ถูกจับกุมอีก
ซีเอ็นเอ็นถามหญิงสาวถึงช่วงที่ถูกจำคุกในไทยนานเกือบ 1 ปี นางแบบสาวกล่าวสรุปหนึ่งคำว่า “นรก” (Hell) ถึงขนาดที่ว่าตนเองคิดหาวิธีฆ่าตัวตายไว้ ถ้าถูกพิพากษาให้จำคุกยาวที่นั่น
“มันเหมือนหนังดังทำเงิน และฉันก็เข้าไปอยู่ในนั้น แต่มันไม่ใช่ภาพยนตร์นะ มันเป็นชีวิตฉัน” หญิงสาวกล่าว
สำหรับความเชื่อมโยงระหว่างการถูกจับกุมในไทยและในรัสเซีย มาจากการที่หญิงสาว อ้างว่ามีคลิปเสียงและคลิปวิดีโอยืนยันว่า มหาเศรษฐีชาวรัสเซีย นายโอเล็ก เดรีปัสคา ผู้สนิทสนมกับ ประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย มีส่วนแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐเมื่อปี 2559
https://videos.dailymail.co.uk/video/mol/2019/01/18/5624416732091691381/1024x576_MP4_5624416732091691381.mp4
ข้อกล่าวอ้างนี้ดูมีน้ำหนัก เนื่องจากหญิงสาวเคยโพสต์คลิปลงอินสตาแกรมเผยให้เห็นว่าตนเองอยู่ในเรือยอชต์ลำเดียวกับมหาเศรษฐีเดรีปัสกา และรองนายกรัฐมนตรีรัสเซียท่านหนึ่ง
เมื่อซีเอ็นเอ็นถาม น.ส.วาชูเควิช ถึงช่วงที่ถูกคุมขังในรัสเซีย หญิงสาวกล่าวว่า สายลับรัสเซียได้สั่งไม่ให้เธอพูดถึงมหาเศรษฐีรายนี้เลย
“ตอนอยู่ในเรือนจำรัสเซีย มีคนพูดคุยและอธิบายกับฉันอย่างชัดเจนว่า อะไรควรพูด อะไรไม่ควรพูด และบอกว่า “อย่าแตะต้องโอเล็ก เดรีปรัสคา อีก” ” วาชูเควิชกล่าว
เมื่อถามว่ารู้สึกเสียใจหรือไม่ที่เคยออกมาอ้างว่ามีคลิปลับ วาชูเควิชบอกว่า ไม่เคยเสียใจที่ทำเช่นนั้น เพราะเป็นการรักษาชีวิตตัวเองไว้
“หากนักข่าวไม่มาหาฉันในตอนถูกคุมขังที่ไทย และเรื่องราวดังกล่าวไม่เป็นข่าวในหนังสือพิมพ์ ตอนนี้ฉันอาจถูกฆ่าตายไปแล้ว” หญิงสาวกล่าว
ช่วงเวลาเดียวกันนี้ ปรากฏว่า กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐ ยกเลิกมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจต่อนายเดรีปัสกา รวมถึงบริษัท รูซาล ผู้ผลิตอะลูมิเนียมรายใหญ่อันดับสองของโลก ไปแล้วตั้งแต่วันที่ 19 ม.ค. ขณะที่ข้อครหาว่า รัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐยังคงเป็นที่กังขาในสหรัฐต่อไป
+++++
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
