ไฟลต์ป่วนหนัก ปากีฯปิดน่านฟ้า – อินเดียปิดสนามบิน สองชาติยิงเจ็ตอีกฝ่ายร่วง
ไฟลต์ป่วนหนัก – เมื่อวันที่ 27 ก.พ. เอเอฟพี รายงานสถานการณ์เผชิญหน้าทางอาวุธระหว่างอินเดียกับปากีสถาน สองชาติเพื่อนบ้านที่ต่างมีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครอง เพิ่มความตึงเครียดหนักจนปากีสถานต้องปิดน่านฟ้า และอินเดียปิดสนามบิน หลังสองชาตินี้ต่างยิงเครื่องบินรบของอีกฝ่ายร่วง การปิดน่านฟ้าทำให้สายการบินนานาชาติหลายเที่ยวบินยกเลิกหรือเบี่ยงเส้นทางไปทิศทางอื่น ท่ามกลางความวิตกของนานาประเทศ
“เราต้องขอปิดน่านฟ้าอย่างเป็นทางการจนกว่าจะประเมินสถานการณ์ต่อไปได้” สำนักงานการบินพลเรือนแถลง และระบุว่า การตัดสินใจครั้งนี้เป็นไปตามสถานการณ์ปัจจุบัน สายการบินทุกสายได้รับแจ้งคำสั่งนี้แล้ว
ขณะที่ฝายอินเดียปิดสนามบินแล้วอย่างน้อย 6 แห่ง พร้อมกับที่กระทรวงต่างประเทศอินเดียแถลงว่า เครื่องบินรบ มิก-21 ของฝ่ายปากีสถานถูกอินเดียยิงตกลงไปในเขตที่ปากีถานควบคุมอยู่
กลุ่มไฟลต์ เรดาร์ องค์กรสังเกตการณ์และจัดแผนที่การจราจรทางอากาศ ระบุว่า ไม่มีเที่ยวบินใดผ่านน่านฟ้าปากีสถานแล้วในเวลานี้ รวมถึงตามแนวพรมแดนติดประเทศอินเดีย
“สายการบินนานาชาติที่ข้ามพรมแดนน่านฟ้าระหว่างอินเดียกับปากีสถาน บางสายการบินวกกลับไปยังจุดเริ่มต้น และที่เหลือพยายามเลี่ยงไปทางเส้นทางอื่น” ไฟลต์เรดาร์ระบุ
Advertisement
ด้านโฆษกสมาคมการขนส่งทางอากาศสากล แจ้งว่า ปกติแล้วจะมีเที่ยวบินที่ผ่านน่านฟ้าปากีสถานบนเส้นทางระหว่างเอเชียกับยุโรป วันละ 220 เที่ยว ซึ่งยังมีเส้นทางเดินทางที่เป็นทางเลือกอื่นจากการปิดน่านฟ้า
การเผชิญหน้าในวันที่ 27 ก.พ. ปากีสถานเป็นฝ่ายแถลงก่อนว่า ยิงเครื่องบินรบของอินเดียตก 2 ลำ พร้อมจับนักบินอินเดียไว้ เพื่อตอบโต้ที่อินเดียส่งเครื่องบินรบเข้าไปทิ้งระเบิดถล่มฐานนักรบกลุ่มก่อการร้าย เจชีโมฮัมเหม็ด ในฝั่งปากีสถาน
พลตรี อาซิฟ คาฟอร์ โฆษกกองทัพปากีสถาน แถลงถึงเหตุการณ์ปากีสถานยิงเครื่องบินกองทัพอากาศอินเดียตก 2 ลำ ว่าเกิดขึ้นที่น่านฟ้าประเทศบริเวณแคว้นแคชเมียร์ ลำหนึ่งร่วงในแคว้นแคชเมียร์ฝั่งปากีสถาน และกองกำลังปากีสถานเข้าจับกุมนักบินอินเดีย 2 นาย นายหนึ่งถูกส่งตัวไปโรงพยาบาล
ต่อมากระทรวงการต่างประเทศปากีฯ แถลงว่า การโจมตีไม่ได้มุ่งเป้าหมายที่เป็นทหารและว่าไม่มีความตั้งใจให้ความขัดแย้งรุนแรงหรือมุ่งก่อสงคราม
ส่วนอินเดียระบุว่าสาเหตุถล่มฐานกองกำลังติดอาวุธในแคชเมียร์ว่าเพื่อล้างแค้นที่นักรบกลุ่มนี้รุกเข้ามาวางระเบิดคาร์บอมบ์พลีชีพสังหารเจ้าหน้าที่ความมั่นคงอินเดียเสียชีวิตไปถึง 40 รายเมื่อวันที่ 14 ก.พ.
ด้านปฏิกิริยาชาติมหาอำนาจ ทั้งสหรัฐอเมริกาและจีนต่างเรียกร้องให้อินเดียและปากีสถานใช้ความอดทนอดกลั้นต่อความตึงเครียดที่เกิดขึ้น และก่อนหน้านี้สหรัฐขอให้ทางการปากีสถานเร่งจัดการกับนักรบติดอาวุธที่อยู่ในพรมแดน