ผงะผู้ลี้ภัยกว่าร้อยคน “บุกจี้” เรือสินค้าใจดีช่วยพ้นน้ำ ก่อนบังคับเปลี่ยนทาง-ไม่รู้ชะตากรรม

ผงะผู้ลี้ภัยกว่าร้อยคน “บุกจี้”บีบีซี รายงานวันที่ 28 มี.ค. ถึงสถานการณ์ระทึกในน่านน้ำ ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน หลัง ผู้ลี้ภัย 108 คน เป็นผู้ชาย 77 คน ผู้หญิงและเด็กรวมกันอีก 31 คน ก่อเหตุ ยึดเรือ สินค้าเอลฮิบลู 1 ซึ่งช่วยเหลือรับผู้ลี้ภัยกลุ่มนี้จากเรือที่ลอยลำอยู่นอกชายฝั่ง ลิเบีย ราว 10 กิโลเมตร โดยหลังจากขึ้นเรือสำเร็จก็บังคับให้เปลี่ยนเส้นทางเดินเรือไปยัง มอลตา ทางตอนใต้ของอิตาลี

ผงะผู้ลี้ภัยกว่าร้อยคน “บุกจี้”

The El Hiblu 1 tanker was taken over by 108 migrants when it was six miles off the Libyan coast. /DHA Photo/

ด้านโฆษกกองทัพมอลตาแถลงว่าพยายามติดต่อกัปตันเรือเอลฮิบลู แต่ยังไม่มีการตอบรับ รวมถึงไม่สามารถชี้ชัดพิกัดของเรือได้ นอกจากนี้ยังย้ำว่าจะไม่อนุญาตให้เรือเอลฮิบลู 1 เข้าสู่น่านน้ำของมอลตา พร้อมทั้งเตรียมการเพื่อรับมืองกับสถานการณ์ไม่คาดคิดที่อาจเกิดขึ้น

ผงะผู้ลี้ภัยกว่าร้อยคน “บุกจี้”

Italy’s far-right Interior Minister and deputy PM Matteo Salvini tweeted that the migrants on the tanker are pirates. /AFP/

ขณะที่นายมัตเตโอ ซัลวินี รองนายกรัฐมนตรีอิตาลี แถลงประณามการกระทำของผู้ลี้ภัยกลุ่มนี้ และว่าเข้าข่ายเป็นอาชญากรรมโจรสลัด

ทั้งนี้ กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจาก สหภาพยุโรป (อียู) ประกาศยกเลิกปฏิบัติการ โอเปอเรชั่น โซเฟีย โครงการเรือช่วยเหลือผู้ลี้ภัยซึ่งลาดตระเวนในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เมื่อเดือนก.ย.ปีก่อน

ผงะผู้ลี้ภัยกว่าร้อยคน “บุกจี้”

Maltese activists help migrants to board a small rescue boat during a rescue operation off the coast of Libya, on November 5, 2016. AFP/Andreas Solaro

ภายหลังทางการอิตาลีเรียกร้องให้ยุติโครงการดังกล่าว เนื่องจากผู้ลี้ภัยยังคงหลั่งไหลเข้าสู่ยุโรป ประกอบกับหลายประเทศปฏิเสธที่จะเปิดรับผู้ลี้ภัย ส่งผลให้ประเทศชายฝั่ง โดยเฉพาะอิตาลี ต้องแบกรับผู้ลี้ภัยจำนวนมาก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน