โป๊ปทรงจุมพิตเท้าคู่อริซูดานใต้ ขอสันติภาพ ยุติสงครามกลางเมือง
โป๊ปทรงจุมพิตเท้าคู่อริซูดานใต้ – รอยเตอร์ รายงานเผยนาทีสมเด็จพระสันตปาปา ฟรานซิส พระชนมพรรษา 82 พรรษา ทรงคุกเข่าไปกับพื้นและจุมพิตที่เท้าของผู้นำการเมืองสองฝ่ายจากประเทศซูดานใต้ หรือ เซาท์ซูดาน ที่มาเข้าเฝ้าที่วาติกัน เป็นจังหวะที่ทำให้ผู้คนพากันตกตะลึง เพราะไม่เคยปรากฏมาก่อนในขนบธรรมเนียมของสำนักวาติกัน
เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 เม.ย. นายซัลวา คีอีร์ มายาร์ดิต ประธานาธิบดีเซาท์ซูดาน และนายรีค มาชาร์ ว่าที่รองประธานาธิบดี รวมถึง น.ส. รีเบคคา เนียนเดง เดอ มาบิเออร์ รมว.ทางหลวงและคมนาคม เข้าเฝ้าสมเด็จพระสันตปาปา
นายคีอีร์และนายมาชาร์ เป็นคู่ขัดแย้งกันทางการเมืองอย่างรนแรง หลังนายคีอีร์กล่าวหามาชาร์ เป็นหอกข้างแคร่ พยายามก่อรัฐประหารตนเมื่อปี 2556 ขณะที่พระสันตปาปาทรงขอร้องให้ทั้งสองฝ่ายร่วมกันสร้างสันติิภาพให้ประชาชน
ผู้นำทั้งสองฝ่ายต่างมีผู้สนับสนุนจากกลุ่มชาติพันธุ์ต่างและบานปลายกลายสงครามกลางเมือง ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 400,000 ราย และมีผู้พลัดถิ่นในประเทศกว่า 1,000,000 คน และอีกกว่า 400,000 คนอพยพไปประเทศเพื่อนบ้าน กระทั่งปีที่ผ่านมา ทั้งสองคนร่วมกันลงนามในข้อตกลงสันติภาพที่เอธิโอเปียและพยายามตั้งรัฐบาลที่มีเสถียรภาพร่วมกัน
สำนักข่าววาติกัน รายงานว่าสมเด็จพระสันตปาปาทรงสร้างความประหลาดใจซึ่งไม่มีใครเข้าใจได้ โดยเฉพาะการให้อภัยให้กันและกัน เป็นสาระสำคัญของการประชุมครั้งนี้
Advertisement
สำหรับผลการหารือระหว่างสองฝ่าย หลังจากโป๊ปฟรานซิสทรงแสดงสัญลักษณ์แห่งการร้องขอสันติภาพอย่างถึงที่สุดนี้ ปรากฏว่ายังจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติยังไม่ได้ทันในกำหนดเดิมวันที่ 12 พ.ค. เพราะยังไม่บรรลุข้อตกลงสันติภาพ ซึ่งต้องการเวลาอีก 6 เดือน เพื่อผสานกองกำลัง ลดทหารออกจากกรุงจูบา เมืองหลวง และเมืองอื่นๆ รวมถึงปล่อยนักโทษทางการเมืองแล้ว จึงจะตั้งรัฐบาลแห่งชาติได้
การเลื่อนกำหนดตั้งรัฐบาลดังกล่าวคาดว่าจะทำให้ประชาชน 12 ล้านคนในซูดานใต้ต้องอยู่อย่างยากลำบากต่อไป หลังจากสงครามทำลายประเทศจนถลำเข้าไปสู่สภาพที่ประชาชนอดอยากขาดอาหาร เกิดความรุนแรงทางเพศ และการฆ่าล้างชนกลุ่มน้อยอย่างกว้างขวาง