เร้าศึกเผชิญหน้าอิหร่าน รมต.สหรัฐโผล่อิรัก หลังส่งเรือ-เครื่องบินรบมาแล้ว

นายพอมเพโอพบกับนายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีของอิรัก รวมถึงเจ้าหน้าที่อื่นๆ ของอิรัก ก่อนเปิดเผยสั้นๆ ว่าการพบปะเป็นประโยชน์มาก สหรัฐย้ำกับอิรักถึงความสำคัญในการปกป้องคุ้มครองชาวอเมริกันในอิรัก และฝ่ายอิรักก็เข้าใจเป็นอย่างดีถึงความรับผิดชอบในครั้งนี้

“เราอยากให้เขารู้ถึงภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้น โดยอธิบายที่มาที่ไปเพื่อให้อิรักปกป้องคุ้มครองคนของเรา เราไม่ได้ต้องการเข้าไปแทรกแซงประเทศอื่น หรือโจมตีประเทศอื่นจากในอิรัก นี่เป็นข้อตกลงที่ชัดเจน” นายพอมเพโอกล่าว

FILE – แฟ้มภาพ เรือยูเอสเอส อับราฮัม ลินคอล์น (AP Photo/Hassan Ammar, File)

เจ้าหน้าที่สหรัฐอ้างกับซีเอ็นเอ็นว่า สหรัฐได้ข่าวกรองว่ากองกำลังของอิหร่าน หรือกองกำลังตัวแทนของอิหร่านมีเป้าหมายโจมตีกองทัพสหรัฐตามฐานที่ตั้งต่างๆ รวมถึงในอิรัก จึงต้องแสดงให้เห็นว่า สหรัฐรู้แล้ว และจะไม่ยอมให้เกิดขึ้น

วันเดียวกัน มีรายงานว่า นายฮัสซัน เราฮานี ประธานาธิบดีอิหร่าน ส่งหนังสือถึงรัฐบาลคู่สัญญาในข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่าน ปี 2558 ได้แก่ สหภาพยุโรป สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส รัสเซีย และจีนให้ทราบว่าอิหร่านจำเป็นต้องถอนข้อตกลงบางส่วนที่ทำไว้กับชาติเหล่านี้ เนื่องจากสหรัฐบีบให้อิหร่านไม่มีทางเลือก

ก่อนหน้านี้ นายโดนัลด์ ทรัมป์ นำสหรัฐถอนตัวจากข้อตกลงดังกล่าวที่ทำไว้สมัยนายบารัก โอบามา เพราะไม่เห็นด้วยว่าเป็นการอ่อนข้อให้ศัตรู อีกทั้งยังหวนฟื้นมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจต่ออิหร่าน ซึ่งกระทบต่อเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของอิหร่านอย่างหนัก

นายพอมเพโอชิ่งหมายพบนายกฯเยอรมันมาอิรักแทน

กระทั่งล่าสุดสหรัฐเคลื่อนอาวุธเข้าไปใกล้อิหร่าน ทำให้รัฐบาลอิหร่านระบุว่า ไม่อาจทำตามสัญญานี้ได้ทั้งหมด และต้องถอนข้อตกลงบางข้ออกไป

ข้อตกลงดังกล่าวมีชื่อว่า “ข้อตกลงร่วมว่าด้วยแผนปฏิบัติการครอบคลุม” (Joint Comprehensive Plan of Action หรือ JCPOA) อิหร่านจะจำกัดกิจกรรมนิวเคลียร์สำคัญและยอมให้คณะผู้ตรวจสอบนิวเคลียร์เข้าไปยังอิหร่านได้ เพื่อแลกกับการยกเลิกการมาตรการคว่ำบาตรที่ใช้ต่ออิหร่านก่อนหน้านี้

…….

อ่านข่าว :

สหรัฐฯ ส่งเรือบรรทุกเครื่องบินและเครื่องบินทิ้งระเบิดหลายลำไปอิหร่าน แต่ยังอ้างว่าไม่ได้ต้องการก่อสงคราม