ทรัมป์ชื่นมื่นเข้าเฝ้าฯ จักรพรรดินารุฮิโตะ-จักรพรรดินีมาซาโกะ ก่อนหารืออาเบะ-ย้ำสัมพันธ์สองชาติ
ทรัมป์ชื่นมื่นเข้าเฝ้าฯ – วันที่ 27 พ.ค. ซีเอ็นเอ็น รายงานความคืบหน้าการเยือน ประเทศญี่ปุ่น อย่างเป็นทางการของ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐอเมริกา ว่า นายทรัมป์ และ นางเมลาเนีย ทรัมป์ สตรีหมายเลขหนึ่ง เดินทางไปยังพระราชวังอิมพีเรียลในกรุงโตเกียว เพื่อเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะ ประมุขแห่งญี่ปุ่น และ สมเด็จพระจักรพรรดินีมาซาโกะ พระมเหสี
นายทรัมป์ถือเป็นพระราชอาคันตุกะ หรือผู้นำต่างชาติคนแรกที่ได้เข้าเฝ้าฯ องค์จักรพรรดิ หลังเสด็จขึ้นครองราชย์รับราชบัลลังก์ต่อจากสมเด็จพระจักรพรรดิอิกิฮิโตะ พระราชบิดา เมื่อวันที่ 1 พ.ค.
องค์จักรพรรดิและจักรพรรดินีทรงมีพระราชปฏิสันถารกับนายทรัมป์ และนางเมลาเนีย อย่างเป็นกันเอง ก่อนจะพระราชทานพระบรมฉายาลักษณ์เมื่อครั้งทั้งสองพระองค์เสด็จเยือนสหรัฐให้เป็นของที่ระลึกแก่นายทรัมป์และนางเมลาเนีย พร้อมด้วยถ้วยกระเบื้อง เครื่องดินเผา และกล่องไม้ขัดเงา ส่วนผู้นำสหรัฐและภริยาทูลเกล้าฯ ถวายรูปถ่ายแด่องค์จักรพรรดิและจักรพรรดินี
จากนั้นนายทรัมป์ร่วมหารือกับนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ผู้นำญี่ปุ่น หลังชื่นมื่นเล่นกอล์ฟนัดกระชับมิตรและเป็นประธานกิตติมศักดิ์มอบถ้วยแชมป์ซูโม่ โดยทั้งสองผู้นำหารือถึงความมั่นคงทางเศรษฐกิจในภูมิภาค รวมถึงกรณีเกาหลีเหนือ ความร่วมมือด้านอวกาศ และการสนับสนุนอาวุธยุทโธปกรณ์
นายอาเบะแถลงหลังการเจรจากับนายทรัมป์ว่า ขอบคุณด้วยความซาบซึ้งใจต่อการมาเยือนของนายทรัมป์และนางเมลาเนีย ตนจะเดินหน้าความร่วมมือกับประธานาธิบดีทรัมป์ต่อไปในอนาคต
สหรัฐและญี่ปุ่นจะร่วมทำงานกันอย่างหนักเพื่อให้การค้าและเศรษฐกิจในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกเปิดกว้างและมีเสรีภาพ นายอาเบะยังระบุว่านายทรัมป์เห็นชอบที่ตนจะหารือกับนายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดแห่งเกาหลีเหนือ เพื่อแก้ข้อบาดหมางกรณีที่เกาหลีเหนือลักพาตัวชาวญี่ปุ่น ช่วงปี 2520-2526
“ผมรู้สึกว่าผมต้องเจอกับท่านคิมต่อหน้าโดยไม่มีการตั้งเงื่อนไขก่อน และแลกเปลี่ยนความเห็นอย่างจริงใจ ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวว่าจะให้ความสนับสนุนที่จำเป็นสำหรับการหารือดังกล่าว”
ด้านนายทรัมป์กล่าวว่า รัฐบาลญี่ปุ่นมีโครงการซื้อเครื่องบินรบพรางตัวรุ่น เอฟ 35 ของสหรัฐ จำนวน 105 ลำ และจะส่งผลให้ญี่ปุ่นมีฝูงบินเอฟ 35 ที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่มประเทศพันธมิตรสหรัฐ