ทรัมป์ขึ้นภาษีเม็กซิโก บีบให้กั้นผู้อพยพ จีนเห็นใจเหยื่อการค้า

ทรัมป์ขึ้นภาษีเม็กซิโกรอยเตอร์ รายงานวันที่ 31 พ.ค. ว่า คำประกาศของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐอเมริกา ขึ้นภาษีสินค้าเม็กซิโกอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย เริ่มต้นที่ร้อยละ 5 ตั้งแต่วันที่ 10 มิ.ย.นี้ เพื่อลงโทษและกดดันที่ชาติเพื่อนบ้านไม่พยายามแก้ไขปัญหาผู้อพยพให้มีประสิทธิภาพเพียงพอ กลายเป็นประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่ว รวมถึงจากจีน คู่ปรับของสหรัฐในสงครามการค้า

นายเกิง ส่วง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวแสดงความเห็นใจต่อเม็กซิโกที่ถูกกระทำเช่นนี้ และว่า “สหรัฐอเมริกาแสดงอาการรังแกทางการค้าซ้ำอีก จีนไม่ใช่เหยื่อเพียงรายเดียว”

กรณีดังกล่าวยังเป็นข้อวิตกกังวลใหม่บนเวทีระหว่างประเทศ และเกรงว่าจะกระทบต่อข้อตกลงทางการค้า 3 ประเทศ สหรัฐ-แคนาดา-เม็กซิโก ที่เพิ่งจะบรรลุไป อีกทั้งอาจก่อให้เกิดการประท้วงวุ่นวายตามมา

ทรัมป์ขึ้นภาษีเม็กซิโก

เด็กๆ ผู้อพยพรอรับอาหารอยู่ที่เมืองปาตาชูลา รัฐชีปาส ประเทศเม็กซิโก. (AP Photo/Marco Ugarte)

นายทรัมป์ตำหนิว่าเม็กซิโกปล่อยให้คนจากอเมริกากลางผ่านเม็กซิโกทะลักเข้าไปยังสหรัฐ พร้อมขู่จะเพิ่มภาษีขึ้นไปเรื่อยๆ ทุกเดือน จนถึงร้อยละ 25 เมื่อถึงเดือนตุลาคม หากสหรัฐเห็นว่าเม็กซิโกยังแก้ปัญหาไม่ได้

ขณะที่นายอันเดรส์ มานูเอล โลเปซ โอเบรดอร์ ประธานาธิบดีเม็กซิโก ทำจดหมายถึงนายทรัมป์ว่า สองฝ่ายควรจะต้องเปิดโต๊ะเจรจาหาทางออกร่วมกัน

“ปัญหาสังคมไม่อาจแก้ไขได้ด้วยมาตรการภาษี หรือใช้การทูตแบบบีบบังคับได้ ประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศของผู้อพยพ เทพีเสรีภาพไม่ใช่สัญลักษณ์ที่ว่างเปล่านะครับ” นายโอเบรดอร์กล่าวเตือนสติผู้นำสหรัฐ

พร้อมระบุด้วยว่า “เราพยายามรับผิดชอบอย่างเต็มที่ที่จะสกัดผู้อพยพผ่านประเทศของเราเท่าที่จะทำได้ และต้องทำโดยไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้วย”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน