จุดเทียนรำลึก30ปีเทียนอันเหมิน ฮ่องกงชุมนุมพรึ่บ ปักกิ่งเงียบ
จุดเทียนรำลึก30ปีเทียนอันเหมิน – เอเอฟพี รายงาน บรรยากาศการจัดพิธีจุดเทียนรำลึกเหตุการณ์นองเลือดจัตุรัสเทียนอันเหมิน ครบ 30 ปี ที่ฮ่องกง เขตปกครองพิเศษของจีน ว่า เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. ชาวฮ่องกงต่างเดินทางมาชุมนุมจนแน่นที่สวนสาธารณะวิกตอเรีย ปาร์ก สื่อ HKFP รายงานว่า มีถึง 180,000 คน เป็นสัญลักษณ์ด้วยว่าชาวฮ่องกงพยายามดิ้นรนรักษาสถานะของการเป็นดินแดนที่มีเสรีภาพในการแสดงออก หลังเริ่มถูกล้อมกรอบจากจีนแผ่นดินใหญ่มากขึ้นทุกขณะ
การชุมนุมของชาวฮ่องกงเรือนแสนที่จุดเทียน ร้องเพลง และฟังผู้กล่าวสุนทรพจน์สะเทือนอารมณ์ บ่งบอกว่า ฮ่องกงเป็นเพียงสถานที่เดียวในจีนที่ยังจัดการชุมนุมรำลึกเหตุการณ์นองเลือดเทียนอันเหมินได้อย่างปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม ฮ่องกงต้องดิ้นรนกับการถูกล้อมกรอบด้วยกฎหมาย ผู้นำการชุมนุมต่อต้านจีนอย่างกว้างขวาง เมื่อปี 2557 เพิ่งถูกตัดสินจำคุก
“การจุดเทียนที่วิกตอเรียปาร์กเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงว่า ชาวฮ่องกงต้องไม่ถูกรังแก และเป็นบทพิสูจน์ว่าพรรคคอมมิวนิสต์จีนจะทำให้ฮ่องกงอยู่ในโอวาทไม่ได้” แถลงการณ์ของผู้จัดการชุมนุมรำลึก ระบุ
นายริชาร์ด ชอย รองประธานกลุ่มพันธมิตรฮ่องกงเพื่อสนุบสนุนการเคลื่อนไหวประชาธิปไตยจีน กล่าวว่า เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากที่ประชาชนฮ่องกงยังคงจดจำเหตุการณ์ 4 มิ.ย. และแน่นอนว่าเพื่อทำให้ความทรงจำคงอยู่ ไม่ปล่อยให้ทางการจีนลบความทรงจำชาวจีนทั้งชาติ
ก่อนหน้านี้ เอเอฟพีรายงานบรรยากาศที่จัตุรัสเมียนอันเหมิน กรุงปักกิ่ง ว่า มีตำรวจตรวจบัตรแสดงตัวตน หนังสือเดินทางของนักท่องเที่ยวและคนที่เดินทางออกจากจตุรัสเทียนอันเหมินทุกคน นักข่าวต่างชาติไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปจัตุรัสเทียนอันเหมินอย่างเด็ดขาด และถูกตำรวจเตือนไม่ให้ถ่ายรูป นักข่าวรายหนึ่งถูกเตือนว่าพฤติกรรมสื่อที่ไม่ถูกกฎหมายอาจส่งผลต่อการต่ออายุวีซ่า
ขณะเดียวกันเป็นที่สังเกตว่า มีประชาชนหลายร้อยคนมาเข้าแถวรอดูการเชิญธงขึ้นยอดเสาที่จัตุรัสด้วยแถวยาวเป็นพิเศษ แม้เป็นกิจกรรมประจำวัน เนื่องจากมีการตรวจเข้ม ให้แสดงบัตรประชาชนที่ต้องตรงกับเครื่องคัดกรองจดจำใบหน้า จนหลายคนอดดู
นักเรียนพยาบาลคนหนึ่งให้สัมภาษณ์ปฏิเสธว่ามารอดูเหตุรำลึกเทียนอันเหมิน ส่วนแม่นักเรียนกล่าวเสริมว่า เราไม่คิดถึงอดีตครั้งนั้น
ด้านคนขับรถแท็กซี่จากแอพพลิเคชั่นตีตี ซึ่งเกิดในปี 2532 กล่าวว่า “ไม่ใช่ผมไม่รู้ว่าเคยเกิดอะไรขึ้น เรารู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่จะให้ผมบอกคุณได้อย่างไรล่ะ แอพพลิเคชั่นตีตีกำลังบันทึกเสียงสนทนาของเราในรถ”
ด้านรัฐบาลชาติตะวันตก ทั้งสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป กล่าวตำหนิจีนที่พยายามปิดกั้นการรำลึกเหตุการณ์ที่เชื่อว่าประชาชนถูกสังหารนับพันชีวิต เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. ทั้งคุมเข้มจตุรัสเทียนอันเหมิน กักขังนักเคลื่อนไหวก่อนถึงวันสำคัญ และบล็อกเนื้อหาเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ในโลกออนไลน์อย่างรัดกุม
ขณะที่จีนตอบโต้ว่า สหรัฐอคติและก้าวร้าว แทรกแซงกิจการภายใน โจมตีระบบของจีน ใส่ร้ายนโยบายต่างประเทศและนโยบายในประเทศของจีน นอกจากนี้ โกลบอลไทมส์ สื่อรัฐบาลยังยกย่องการรับมือเหตุการณ์ของรัฐบาลในอดีต ว่าเป็นการฉีดวัคซีนให้สังคมจีนเพื่อต่อต้านความไม่สงบทางการเมืองครั้งใหญ่ใดๆ ก็ตามที่จะเกิดในอนาคต
“In a few minutes, a city that had been entirely peaceful was being turned not into a battle zone, but a killing ground.”
It’s 30 years since the Tiananmen Square protests https://t.co/cdAiN3u1Xu
Newsnight’s Julian O’Halloran was in Beijing#newsnight | #Tiananmen30 pic.twitter.com/vpNZKFfbp5
— BBC Newsnight (@BBCNewsnight) 4 มิถุนายน 2562
สถานเอกอัครราชทูตจีนในกรุงวอชิงตัน ตอบโต้รัฐบาลสหรัฐ หลังจากนายไมก์ พอมเพโอ รมว.ต่างประเทศสหรัฐกล่าวว่า สหรัฐหวังมาตลอดว่าการที่จีนสู่ระบบระหว่างประเทศจะนำไปสู่สังคมที่เปิดกว้าง อดทนต่อความเห็นต่างยิ่งขึ้น แต่ความหวังเหล่านั้นถูกทำลาย จีนละเมิดสิทธิเสรีภาพระลอกใหม่ รวมถึงการกักขังมุสลิมอุยกูร์ในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์
ด้าน น.ส.เฟเดริกา ม็อกเกรินี ข้าหลวงใหญ่อียู ด้านการต่างประเทศ กล่าวว่า อียูยังคงเฝ้าจับตาเสรีภาพการแสดงออกและการชุมนุม เสรีภาพสื่อในจีนต่อไป เหตุการณ์เทียนอันเหมินไม่ควรถูกทำให้ลืม หากควรต้องยอมรับว่ามีผู้ถูกฆ่า กักขัง สูญหาย เพราะเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคนรุ่นหลัง หลังจาก 30 ปีผ่านมานี้ จีนไม่เคยแจงตัวเลขจำนวนผู้ที่เสียชีวิตและถูกกักขังที่แท้จริงเมื่อวันที่ 4 มิ.ย.
…………………….
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :