เมื่อวันที่ 17 มี.ค. เอพีรายงานเหตุการณ์สะเทือนใจชาวอเมริกัน เมื่อหญิงผู้ปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ หรือ EMT มานาน 14 ปีต้องจบชีวิตอย่างน่าสลด เพราะถูกโจรขโมยรถฉุกเฉินการแพทย์ของเธอแล้วขับชนทับร่างเธอจนเสียชีวิต
ผู้ตายชื่อ ยาดิรา อาร์โรโย อายุ 44 ปี มีบุตร 5 คน ทำงานนี้มานาน 14 ปีแล้ว ในวันเกิดเหตุ อยู่กับเจ้าหน้าที่อีเอ็มทีอีกคนในย่านบรองซ์ นครนิวยอร์ก ก่อนเสียชีวิต นางอาร์โรโยพร้อมเพื่อนร่วมงานโทร.แจ้งตำรวจว่ามีบุคคลที่สามกระโดดขึ้นมาบนหลังรถพยาบาล
เมื่อโทร.แจ้งแล้ว เจ้าหน้าที่หญิงทั้งสองจึงจอดรถลงมาดู แต่ชายผู้ก่อเหตุอ้อมหนีแล้วฉวยกระโดดขึ้นไปที่นั่งคนขับ สองฝ่ายจึงต่อสู้ชิงรถกัน แต่โจรแรงเยอะกว่า ยึดเอารถไปได้ใส่เกียร์ เหยียบคันเร่ง กระชากรถให้ถอยหลัง จนนางอาร์โรโยตกจากรถแล้วถูกล้อเหยียบทับร่างและลากติดไปกับรถ มีผู้ขับรถอยู่ตรงบริเวณนั้นบันทึกภาพดังกล่าวไว้ได้ เป็นที่สะเทือนขวัญ
ต่อมาโจรปล้นรถซิ่งหนี กวาดชนกับรถคันอื่นๆ ที่จอดอยู่ข้างทาง กระทั่งไปชนหิมะกองหนาจนไปต่อไม่ได้ จึงถูกเจ้าหน้าที่พร้อมพลเมืองดีช่วยกันจับกุมไว้ได้ ทราบชื่อต่อมา นายโจเซ กอนซาเลซ อายุ 25 ปี เป็นคนที่อาศัยอยู่ในเขตบรองซ์ เจ้าหน้าที่ตั้งข้อหาฆาตกรรม โจรกรรม และขับรถขณะมีฤทธิ์ยาเสพติด ขณะที่ชาวบ้านพากันรุมประณามหนุ่ม
นายบิล เดอ บลาซิโอ นายกเทศมนตรีนิวยอร์ก แถลงขอบคุณเจ้าหน้าที่และพลเมืองดีที่ช่วยกันจับกุมคนร้ายไว้ได้ มีฮีโร่มากมายในโศกนาฏกรรมที่สะเทือนใจในครั้งนี้
“พวกเราต่างรู้ว่า อีเอ็มทีของเรากล้าหาญ ทำงานที่เสี่ยงเพื่อช่วยชีวิตผู้อื่น ไม่ควรจะมาตกเป็นเหยื่อของความรุนแรง แต่อันตรายมักเกิดขึ้นกับพวกเขาเสมอ” นายบลาซิโอกล่าว พร้อม
ขณะที่นายแอนดรูว์ โคโม ผู้ว่าการนิวยอร์ก ทวีตข้อความว่า อีเอ็มทีเป็นฮีโร่ที่ช่วยผู้เดือดร้อนในนิวยอร์กทุกๆ วัน โศกนาฏกรรมในบรองซ์คืนนี้เลวร้ายมาก ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของเหยื่ออย่างสุดซึ้ง”