พลังรุ่นเล็ก! นักเรียน-นักศึกษานับหมื่น ฮือหยุดเรียน-ชุมนุมต้านรบ.ฮ่องกง
พลังรุ่นเล็ก! – วันที่ 2 ก.ย. บีบีซี รายงานสถานการณ์การประท้วงทางการ ฮ่องกง ซึ่งยืดเยื้อเข้าสู่สัปดาห์ที่ 14 ว่า นักเรียนระดับมัธยมศึกษา กว่า 10,000 คนจาก 200 โรงเรียน พร้อมใจกันหยุดเรียนในวันแรกของการเปิดภาคเรียน เพื่อร่วม ชุมนุม แสดงจุดยืนคัดค้าน ร่างกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนให้จีน รวมถึงต่อต้านความพยายามของทางการฮ่องกงที่ต้องการอยู่ภายใต้การรวบอำนาจของรัฐบาลจีน
ภายหลังกลุ่มประชาธิปไตยไม่สนคำสั่งห้ามจัดการชุมนุมเมื่อวันเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา จนเกิดการปะทะดุเดือดระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้ประท้วงอีกครั้ง
สำหรับการประท้วงต่อเนื่องในช่วงเช้าวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์ระบุว่า กลุ่มผู้ประท้วงจำนวนหนึ่งรวมตัวขัดขวางการเดินรถไฟใต้ดินและรถไฟหลายสถานี เป็นเหตุให้เกิดการจราจรติดขัดในชั่วโมงเร่งด่วน แต่ต่อมาสามารถให้บริการได้ตามปกติ
ขณะที่นักเรียนและนักศึกษาร่วมหมื่นคนเดินทางไปรวมตัวที่เอดินเบิร์กเพลส ใจกลางเมืองฮ่องกง ตามนัดของพรรคเดโมซิตโต ผู้จัดการชุมนุมครั้งนี้ เพื่อกดดันให้ นางแคร์รี่ หล่ำ หัวหน้าคณะบริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ถอนร่างกฎหมายดังกล่าวอย่างถาวร
ด้านโซเชี่ยลมีเดียแห่โพสต์และแชร์รูปเด็กนักเรียนยืนเรียงรายจับมือเป็นห่วงโซ่มนุษย์หน้าโรงเรียนหลายแห่ง รวมถึงมีการนำหน้ากากอนามัย แว่นตา และหมวกนิรภัยสวมให้รูปปั้น ดร.ซุน ยัต เซ็น นักประชาธิปไตยและนักปฏิวัติ บิดาแห่งชาติของไต้หวัน ที่โรงเรียนในฮ่องกงด้วย
“ฉันพร้อมรับบทลงโทษใดๆ ก็ตาม” หนึ่งในนักเรียนจากวิทยาลัยในย่านซัมซุยโป กล่าวระหว่างร่วมการชุมนุม เช่นเดียวกับนักเรียนและนักศึกษาอีกหลายคนที่สวมผ้าปิดตาข้างหนึ่ง เพื่อแสดงความสนับสนุนหญิงผู้ประท้วงซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ยิงกระสุนยางโดนจนเบ้าตาแตก และกลายเป็นภาพสัญลักษณ์ในการต่อสู้กับการใช้กำลังเกินเหตุของเจ้าหน้าที่
ทั้งนี้ การชุมนุมช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมากลับมาทวีความรุนแรงทั้งสองฝ่าย โดยกลุ่มผู้ประท้วงบุกปิดทางเข้าออกสนามบิน ปิดกั้นถนนและรถไฟที่เชื่อมต่อกับสนามบิน ส่งผลให้เที่ยวบินล่าช้าและกระทบต่อผู้ใช้บริการขนส่งสาธารณะ
นอกจากนี้เหตุการณ์ยังบานปลายมีกลุ่มผู้ประท้วงฮาร์ดคอร์ทำร้ายผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดินจนบาดเจ็บและทรัพย์สินเสียหาย ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังเข้าปราบปรามด้วยสเปรย์พริกไทยและกระบอง โดยจับกุมผู้ใช้ความรุนแรงอย่างน้อย 40 คนไปสอบปากคำ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: