เมื่อวันที่ 5 เม.ย. ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า กระแสการแสดงออกชายจูงมือชายขยายไปทั่วเมืองใหญ่ของชาติตะวันตก จากนิวยอร์กถึงลอนดอน และจากแคเบอร์ราถึงอัมสเตอร์ดัม เพื่อรณรงค์สิทธิในการรักเพศเดียวกัน หลังเกิดคดีคู่หนุ่มเกย์เดินจูงมือกันในเมืองอาร์เนม ประเทศเนเธอร์แลนด์ แล้วถูกกลุ่มวัยรุ่นรุมทำร้าย

เหตุการณ์ต้นเรื่องเกิดขึ้นหลังจากชายสองคนถูกกลุ่มวัยรุ่นรุมทำราย จนทำให้นายรอนนี่ ซิพราทาน แวร์เนส บาดเจ็บ ฟันหัก 4 ซี่ ปากแตก ส่วนนายยาสเปอร์ แวร์เนส-ซิพราทาน ผู้ชายอีกคนบาดเจ็บบริเวณซี่โครง

แวร์เนส-ซิพราทาน ระบุว่า ปกติแล้ว พวกตนจะปกปิดสถานะความสัมพันธ์ แต่พวกตนเริ่มเปลี่ยนแนวคิดและตัดสินใจจูงมือกันระหว่างกลับบ้านตอนกลางคืน จนทำให้กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวที่พบเห็นจึงเข้าทำร้าย

สมาชิกสภาของเนเธอร์แลนด์ ประกอบด้วย นายอเล็กซานเดอร์ เพชโตลด์ หัวหน้าพรรคเสรีนิยม และสมาชิกพรรคนายวัวเตอร์ โคลเมสตัดสินใจที่จะเดินจูงมือกันเพื่อสนับสนุนคู่เกย์ที่ถูกโจมตีดังกล่าว

ไม่ใช่แค่สมาชิกสภา น.ส.บาร์บาร่า บาเร็นด์ ผู้สื่อข่าวชาวดัตช์ได้ทวีตข้อความกระตุ้นให้บรรดาผู้ชายทั้งหลายจูงมือกันในที่สาธารณะเพื่อแสดงการสนับสนุน จนทำให้ผู้ชายชาวดัตช์ร่วมใจจูงมือและแชร์ภาพลงในโลกโซเชี่ยล รวมถึงทวีตเตอร์ภายใต้แฮชเทคที่ว่า #ผู้ชายทุกคนจูงมือกัน (#allemanenhandinhand)

ทั้งนี้กลุ่มวัยรุ่นที่ทำร้ายคู่เกย์ถูกประณามจากนักการเมืองหลายคนรวมไปถึงนายกรัฐมนตรีนายมาร์ก รุตเตอ นอกจากน.ส.บาเร็นด์ ผู้สื่อข่าวสาวยังได้ออกมาเตือนอีกว่าโรงเรียนควรจะสอนเด็กให้รู้จักเรื่องเพศที่สามว่าเป็นเรื่องปกติ และกระตุ้นให้ครูที่เป็นเกย์กล้าแสดงตัวตน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน