สภาฮ่องกงโกลาหล ส.ส.โห่ไล่ผู้นำ แถลงนโยบายล่ม! หน้ากากสีจิ้นผิงโผล่
สภาฮ่องกงโกลาหล – เมื่อวันที่ 16 ต.ค. รอยเตอร์ รายงานว่า นางแคร์รี หล่ำ หัวหน้าคณะบริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ไม่อาจแถลงนโยบายต่อรัฐสภาได้ หลังถูกบรรดาสมาชิกสภาผู้แทนฯ ประท้วงและตะโกนขับไล่ ส่งผลให้บรรยากาศการเปิดประชุมสภาสมัยสามัญเต็มไปด้วยความโกลาหล ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ผู้นำฮ่องกงแถลงนโยบายประจำปีไม่ได้
การแถลงนโยบายต่อสภาของนางหล่ำเกิดขึ้นท่ามกลางกระแสการชุมนุมต่อต้านอิทธิพลจีนที่กินเวลานานต่อเนื่องมาถึง 4 เดือนแล้ว โดยนางหล่ำพยายามแถลงนโยบายถึงสองครั้งแต่ไม่สำเร็จเองจากสมาชิกวิปฝ่ายค้าน ตะโกนแทรก ปีนขึ้นไปบนโต๊ะ และยังใช้โปรเจกเตอร์ฉายภาพข้อความประท้วงที่ด้านหลังนางหล่ำ รวมทั้งใส่หน้ากากล้อเลียนประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีนด้วย
สุดท้ายนางหล่ำใช้วิธีการเปิดคลิปแถลงนโยบายที่เตรียมไว้ รวมถึงแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ซึ่งสำนักข่าวรอยเตอร์สรุปหัวข้อคร่าวๆ ว่านโยบายนี้แบ่งเป็น การเมือง อสังหาริมทรัพย์-ที่อยู่อาศัย ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน เศรษฐกิจ และแรงงาน เป็นต้น
สำหรับประเด็นการเมืองสรุปหัวข้อได้ดังนี้
- เอ่ยถึงผลกระทบต่อการประท้วงมากกว่า 400 ครั้งในช่วง 4 เดือนที่ขยายวงออกไป
- การประท้วงทำให้มีผู้บาดเจ็บมากกว่า 1,100 คน และจับกุม 2,200 คน
- รัฐบาลจะยึดมั่นการปกครองหนึ่งประเทศสองระบบต่อไป
- รัฐบาลจะไม่ยอมให้เกิดการแบ่งแยกดินแดน
- เอ่ยถึงการใช้ความรุนแรงและสร้างความเกลียดชังมีแต่จะสร้างผลร้ายต่อฮ่องกง
ด้านอสังหาริมทรัพย์ เพิ่มโครงการจัดสรรที่อยู่อาศัย 10,000 ยูนิตใน 3 ปีข้างหน้า ผลักดันแผนการกระตุ้นการขยายบ้านสาธารณะในโครงการของรัฐ 42,000 ยูนิต พร้อมเอ่ยตำหนิว่าการประท้วงส่งผลให้โครงการเพิ่มอุปทานที่ดินล่าช้าลงไป
ด้านฝ่ายค้านกล่าวโจมตีนางหล่ำ ว่าปฏิบัติตามใบสั่งจากทางการจีน และไม่ไยดีต่อความต้องการของชาวฮ่องกงแม้การชุมนุมจะผ่านมาถึง 4 เดือน แต่นางหล่ำกลับหลบซ่อนตัวเองอยู่ในโลกส่วนตัว ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น ขณะที่สมาชิกฝ่ายรัฐบาล กล่าวตอบโต้ว่าฝ่ายค้านมีพฤติกรรมที่ป่าเถื่อนและสมควรถูกประณาม
วันเดียวกัน รัฐสภาคองเกรส ประเทศสหรัฐอเมริกา มีมติผ่านร่างกฎหมายใหม่เพื่อสนับสนุนเสรีภาพและสิทธิมนุษยชนในฮ่องกง โดยกำหนดให้สถานะการค้าพิเศษระหว่างสหรัฐกับฮ่องกงต้องได้รับการต่ออายุทุก 1 ปี โดยสหรัฐจะต่ออายุให้ก็ต่อเมื่อรัฐบาลฮ่องกงนั้นเคารพต่อเสรีภาพและสิทธิมนุษยชน สร้างความไม่พอใจอย่างรุนแรงให้กับทางการจีน
นายเกิง ฉวง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวว่า ทางการจีนขอแสดงความโกรธแค้นอย่างรุนแรงต่อการผ่านร่างกฎหมายฉบับข้างต้นของสภาคองเกรส พร้อมชี้แจงว่า สถานการณ์ที่ฮ่องกงเผชิญอยู่ไม่มีความเกี่ยวโยงใดๆ กับประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน แต่เป็นสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในบ้านเมือง และความพยายามนำความสงบเรียบร้อยกลับสู่สังคมบนพื้นฐานของกฎหมาย
จีนขอเรียกร้องให้สหรัฐยุติการแทรกแซงกิจการภายในของจีน พร้อมขู่ว่าทางการจีนอาจดำเนินมาตรการตอบโต้ต่อสหรัฐอย่างสมน้ำสมเนื้อด้วย