เผยคลิปบุกสังหารผู้นำไอเอส เพนตากอนปล่อยนาทีถล่มปลิดชีพ

เผยคลิปบุกสังหารผู้นำไอเอส – วันที่ 31 ต.ค. ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า กระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกา หรือเพนตากอน เปิดเผยคลิปเหตุการณ์ที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษพร้อมกำลังสนับสนุนทางอากาศช่วงสุดท้ายของภารกิจล่าสังหารนายอาบู บักร์ อัล แบกแดดี อดีตผู้ก่อตั้งกองกำลังนักรบของรัฐอิสลาม หรือไอเอส

คลิปดังกล่าวเผยให้เห็นสมาชิกหน่วยปฏิบัติการพิเศษยิงปะทะกับกองกำลังติดอาวุธไม่ทราบฝ่ายขระบุกเข้าประชิดอาคารแห่งหนึ่งในประเทศซีเรีย ซึ่งเป็นสถานที่กบดานของผู้นำไอเอส ก่อนกำลังสนับสนุนทางอากาศ อาทิ เครื่องบินรบเอฟ-15 และโดรนสังหาร เอ็มคิว-9 รีพเปอร์ จะยิงถล่มอาคารจนเหลือแต่ซาก

พลเอกแฟรงค์ แม็กเคนซี ผู้บัญชาการกองบัญชาการกลางกองทัพสหรัฐ กล่าวว่า ผลการตรวจพิสูจน์สารพันธุกรรม หรือดีเอ็นเอ จากศพผู้เสียชีวิตยืนยันว่าเป็นนายแบกแดดีจริง โดยนำไปเปรียบเทียบกับข้อมูลดีเอ็นเอเมื่อครั้งที่อดีตผู้นำไอเอสถูกจองจำที่เรือนจำบัคคา ประเทศอิรัก

อย่างไรก็ตาม พล.อ.แม็กเคนซี ระบุว่า ไม่สามารถยืนยันได้ว่านาทีสุดท้ายก่อนที่นายแบกแดดีจะเสียชีวิตว่าเป็นตามที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ กล่าวอ้างในการแถลงข่าว ว่า “ร้องไห้คร่ำครวญ” จริงหรือไม่

“แบกแดดีพาลูกชาย 2 คน มุดลงหลุมไปขณะถูกไล่ล่า ก่อนจะจุดชนวนระเบิดพลีชีพฆ่าตัวตายพร้อมกับเด็กๆ ขณะที่ลูกน้องของตัวเองต่อสู้อยู่กับหน่วยรบของเรา น่าจะพอคาดได้ว่าคนคนนี้เป็นคนแบบไหน” แม็กเคนซี กล่าว

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลใหม่นั้นขัดแย้งกับของประธานาธิบดีทรัมป์ และหน่วยงานระดับสูงของสหรัฐที่เดิมเชื่อว่า นายแบกแดดีจุดชนวนระเบิดตัวเองไปพร้อมกับลูกทั้งหมด 3 คน แต่ข้อมูลใหม่จากหน้างานนั้นพบว่า ตายไปพร้อมกับลูกชายเพียง 2 คนเท่านั้น ทั้งหมดอายุต่ำกว่า 12 ขวบ

พล.อ.แม็กเคนซี กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า การประกาศถอนทัพสหรัฐออกจากซีเรียของประธานาธิบดีทรัมป์ไม่ใช่ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อภารกิจของหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่สามารถเดินทางเข้าออกได้ทุกที่ทุกเวลา หากข่าวกรองที่ได้รับนั้นมีความน่าเชื่อถือเพียงพอ

นอกจากนี้ พล.อ.แม็กเคนซี ยังเปิดเผยด้วยว่า ข่าวกรองดังกล่าวทางสหรัฐได้รับมาจากสมาชิกกองกำลังประชาธิปไตยซีเรีย หรือเอสดีเอฟ ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธชาวเคิร์ดที่สหรัฐใช้เป็นกำลังหลักภาคพื้นดิน แต่ภารกิจข้างต้นนั้นใช้ทหารของสหรัฐเท่านั้น

รายงานระบุว่า การแถลงข่าวการสังหารผู้นำไอเอสนั้นเป็นพัฒนาการครั้งสำคัญที่สุดในสงครามต่อต้านการก่อการร้ายของสหรัฐนับตั้งแต่การแถลงข่าวการสังหารนายโอซามา บิน ลาเดน ของอดีตประธานาธิบดีบารัก โอบามา เมื่อปี 2554

อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตถึงความแตกต่างของท่าทีในการแถลงข่าวของผู้นำสหรัฐทั้งสองคน โดยอดีตประธานาธิบดีโอบามานั้นใช้ถ้อยคำที่จริงจัง พร้อมบรรยากาศที่เซื่องซึม

ขณะที่ประธานาธิบดีทรัมป์นั้นใช้ถ้อยคำที่รุนแรง ทั้งยังบรรยายถึงความสยดสยองของจุดจบผู้นำไอเอส ทั้งยังกล่าววาจาเหยียดหยามอดีตผู้นำไอเอสที่จบชีวิตไปแล้วด้วยว่า “เป็นแค่ไอ้ขี้ขลาด”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน