ศึกจองล้างจองผลาญ ทรัมป์อ้างสั่งฆ่านายพลอิหร่าน เพื่อหยุดสงคราม : รายงานพิเศษ ข่าวสดรอบโลก

ศึกจองล้างจองผลาญ – โลกเปิดฉากปีใหม่ด้วยความตึงเครียดขั้นสุดจากชาติมหาอำนาจสหรัฐอเมริกา เมื่อมีการเคลื่อนกำลังทหารกองหนุนเข้าสู่ดินแดนอาหรับรับมือเหตุการณ์ที่ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศกร้าวว่า อิหร่าน ชาติคู่อริ ต้องชดใช้อย่างสาสม หลังเหตุบุกสถานทูตสหรัฐในกรุงแบกแดด ประเทศอิรัก

ถัดมาสองวัน ทรัมป์สั่งกองทัพโจมตีทางอากาศ ถล่มขบวนรถ 2 คันของกองกำลังฮาเชด อัล-ชาอาบี ที่ท่าอากาศยานนานาชาติแบกแดด สังหารนายพลกาซิม สุไลมานี ผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน หรือ กองกำลังคุดส์ และเป็นผู้ทรงอิทธิพลสูงสุดอันดับสองของประเทศ พร้อมนายทหารอื่นๆ รวม 8 ราย

ศึกจองล้างจองผลาญ

a burning vehicle at the Baghdad International Airport following an airstrike in Baghdad, Iraq, early Friday, Jan. 3, 2020. (Iraqi Prime Minister Press Office via AP)

แม้จะเป็นการโจมตีที่ใช้โดรนเพียงลำเดียว แต่ปลุกความเจ็บแค้นและคำประกาศล้างแค้นของอิหร่าน จนเป็นสถานการณ์ที่ทำให้นานาประเทศหวาดหวั่นถึงสงคราม ส่วนราคาน้ำมันโลกพุ่งขึ้นทันทีร้อยละ 4

นายทรัมป์เปิดแถลงอ้างว่า การสังหารนายพลอิหร่าน เป็นการป้องกันสงคราม ทั้งที่คนอื่นๆ เห็นว่า นี่เป็นการยั่วยุทางทหารที่ตึงเครียดที่สุดนับจากยุคประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช สั่งยกทัพบุกอิรัก เพื่อโค่นซัดดัม ฮุสเซน ในปี 2546

ทรัมป์เปิดแถลงเหตุสั่งฆ่านายพลอิหร่าน President Donald Trump delivers remarks on Iran, at his Mar-a-Lago property, Friday, Jan. 3, 2020, in Palm Beach, Fla. (AP Photo/ Evan Vucci)

“เราใช้ปฏิบัติการนี้เมื่อคืนเพื่อหยุดสงคราม เราไม่ได้ทำเพื่อเริ่มต้นสงคราม” ทรัมป์กล่าว และข่มขู่อิหร่านต่อว่า ที่ปรึกษาทางทหารมีแผนรับมืออิหร่านไว้แล้ว

“ถ้าชาวอเมริกันไม่ว่าที่ใดถูกข่มขู่คุกคาม เรามีเป้าหมายทั้งหมดอยู่ในมือแล้ว และผมพร้อมจะใช้มาตรการที่จำเป็น ซึ่งนั่นหมายถึงอิหร่านโดยเฉพาะ”

…………….

สถานการณ์ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่นี้อุบัติที่อิรัก สมรภูมิที่สหรัฐเคยยกทัพใหญ่มาบุกเมื่อปี 2546 โค่นล้มรัฐบาลซัดดัม ฮุสเซน ฝ่ายนิกายสุหนี่ เปิดทางให้ฝ่ายนิกายชีอะห์ขึ้นมาเป็นรัฐบาลแทน แต่อิรักยังต้องเผชิญกับเหตุการณ์ความรุนแรงจากการโจมตีของกลุ่มนักรบต่างๆ อย่างต่อเนื่อง

ความซับซ้อนอยู่ที่ว่ากลุ่มนิกายชีอะห์ของอิรักมีความสัมพันธ์อันดีกับรัฐบาลอิหร่าน และเป็นความขัดแย้งในสัมพันธ์สามเส้าที่ตำใจรัฐบาลสหรัฐมาตลอด

ช่วงที่กองกำลังรัฐอิสลาม หรือ ไอเอส ฝ่ายนิกายสุหนี่ รุกคืบยึดดินแดนมากมายในอิรักทั้งภาคเหนือและภาคตะวันตก เมื่อปี 2557 อิรักเพลี่ยงพล้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทำให้อิหร่านต้องส่งกองกำลังนิกายชีอะห์เข้าช่วยต่อสู้กับไอเอส

การสู้รบกับไอเอสที่โมซุล south of Mosul, Iraq February 19, 2017. REUTERS/Zohra Bensemra

จังหวะเวลาดังกล่าวรัฐบาลสหรัฐเองก็ส่งความช่วยเหลือให้กองกำลังอิรักด้วยเพื่อต้านทานไม่ให้ไอเอสขยายตัวเป็นภัยต่อชาติตะวันตก

อิรักจึงได้รับความช่วยเหลือจากสองทาง ทั้งจากอิหร่านและสหรัฐ กระทั่งประกาศชัยชนะยึดพื้นที่คืนจากไอเอสได้สำเร็จเมื่อเดือนธันวาคม 2560

แต่ความสัมพันธ์สามเส้า มาถึงจุดตึงเครียดรอบใหม่ใน ปี 2563

เหตุการณ์กองกำลังนักรบนำกลุ่มผู้ต่อต้านสหรัฐบุกเข้าไปในสถานทูตสหรัฐประจำอิรัก ทุบทำลายกระจกและเผาพื้นที่ด้านหน้าของอาคาร ด้วยความโกรธแค้น เมื่อวันที่ 31 ธ.ค.2562 ข้ามมาถึงวันที่ 1 ม.ค.2563 มีต้นตอมาจากการที่สหรัฐทิ้งระเบิดทางอากาศสังหารนักรบกลุ่มคาเตบ เฮซบอลเลาะห์ที่อิหร่านหนุนหลัง บริเวณพรมแดนอิรัก-ซีเรีย 5 จุดเป้าหมาย เสียชีวิตถึง 25 ศพ บาดเจ็บ 51 ราย เมื่อวันอาทิตย์ที่ 30 ธ.ค.

ผู้ประท้วงบุกสถานทูตสหรัฐ Attackers and assailants set fire to a gate as smoke rises from inside the compound of the U.S. embassy in Baghdad, Iraq January 1, 2020. U.S. Army/Staff Sgt. Desmond Cassell/Task Force-Iraq Public Affairs/Handout via REUTERS.

สหรัฐอ้างว่า กลุ่มดังกล่าวเป็นผู้สังหารผู้รับเหมาชาวอเมริกัน 1 ราย และทำให้คนอื่นๆ บาดเจ็บในพื้นที่ทหารใกล้เมืองเคอร์คุก ภาคเหนือของอิรัก เมื่อสัปดาห์ก่อนหน้า

การสั่งสอนแบบ “จัดใหญ่” ของทัพสหรัฐ 1 ชีวิต แลก 25 ชีวิตดังกล่าว โหมไฟแค้นให้นักรบฝ่ายสนับสนุนอิหร่านขึ้นมาอีก

ฐานที่มั่นของกลุ่มคาเตป เฮซบอลเลาะห์ ถูกถล่มที่เมืองคาอิม อิรัก / BBC

ตอกย้ำความบาดหมางที่รัฐบาลนายทรัมป์ชวางอิหร่านเป็นศัตรู ตัวฉกาจ ถึงขั้นถอนตัวจากข้อตกลงนานาชาติด้านนิวเคลียร์กับอิหร่าน โดยไม่สนใจเสียงทักท้วงจากพันธมิตรยุโรป รัสเซีย และจีน ที่รัฐบาลนายบารัก โอบามา ทำไว้เมื่อปี 2558

จากนั้นสหรัฐก็ใช้มาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจบีบรัดอิหร่านอย่างหนักจนหาหนทางรอมชอมกันไม่ได้อีก

………..

นับจากเดือนพฤษภาคม 2562 สหรัฐส่งทหารเข้าไปเพิ่มในอ่าวเปอร์เซีย 14,000 นาย อ้างว่าได้รับข่าวกรองว่าอิหร่านจะโจมตีผลประโยชน์ของสหรัฐ จากเดิมที่สหรัฐมีกำลังทหารในอิรัก 5,200 นายไว้ต่อสู้กับไอเอส

จากนั้นเมื่อเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงในแดนอาหรับที่สหรัฐกล่าวหารัฐบาลอิหร่านอยู่เบื้องหลังครั้งใด สหรัฐก็เพิ่มกำลังทหารเข้าไปยังตะวันออกกลางมากขึ้นเรื่อยๆ

Protesters burn property in front of the U.S. embassy compound, in Baghdad, Iraq, Tuesday, Dec. 31, 2019. (AP Photo/Khalid Mohammed)

ไม่ว่าจะเป็นเหตุโจมตีเรือบรรทุกน้ำมันของซาอุดีอาระเบียในอ่าวเปอร์เซีย เหตุโดรนถล่มโรงกลั่นน้ำมันของซาอุดีอาระเบีย จนมาถึงข้อกล่าวหาล่าสุดที่นายทรัมป์ซัดใส่รัฐบาลอิหร่านว่าอยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีสถานทูต

รวมถึงครั้งล่าสุด หลังการสังหารนายพลอิหร่าน ทรัมป์ส่งทหารเพิ่มเข้าไปยังตะวันออกกลางอีก 3,000 นาย

สำหรับท่าทีของอิหร่านนอกจากปฏิเสธข้อกล่าวหาของสหรัฐ และประกาศล้างแค้นแล้ว อิหร่านยังตอกย้ำถึงการ “รู้ทัน” เป้าหมายและเจตนาปลุกเร้าสงคราม

อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี เยี่ยมครอบครัวนายพลสุไลมานี (Office of the Iranian Supreme Leader via AP)

“คุณจะเห็นได้ว่า อาชญากรรมที่คุณก่อไว้ในอิรัก อัฟกานิสถาน ทำให้หลายๆ ชาติเกลียดคุณ” อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดอิหร่าน กล่าว พร้อมย้ำทฤษฎีสมคบคิดว่า สหรัฐต้องการล้างแค้นอิหร่านที่เข้าไปปราบไอเอส เพราะสหรัฐนั่นเองที่เป็นผู้สร้างไอเอส ขึ้นมา

“ลองดูสิ่งที่สหรัฐทำในอิรักและซีเรีย พวกนั้นล้างแค้นกับกลุ่มนักรบฮาเชด อัล-ชาอาบีของอิหร่านที่เอาชนะกองกำลังไอเอสได้ เพราะ ไอเอสเกิดจากสหรัฐที่สร้างขึ้นมา ดังนั้น รัฐบาลอิหร่าน ประเทศอิหร่าน และข้าพเจ้าจึงขอประณามความเลวร้ายของสหรัฐ”

สำหรับประชาคมโลก เป็นที่น่ากลุ้มว่าการเผชิญหน้าอันน่าตึงเครียดนี้เกิดขึ้นในปีที่นายทรัมป์ต้องการชนะศึกเลือกตั้งรั้งเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐต่อเป็นสมัยที่สอง

……………..

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :

ผวาสงครามปะทุ จีน-รัสเซีย-ฝรั่งเศส อึ้งทรัมป์สั่งฆ่านายพล อิหร่านร่ำไห้ระคนแค้น

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน