ศึกจองล้างจองผลาญ ทรัมป์อ้างสั่งฆ่านายพลอิหร่าน เพื่อหยุดสงคราม : รายงานพิเศษ ข่าวสดรอบโลก
ศึกจองล้างจองผลาญ – โลกเปิดฉากปีใหม่ด้วยความตึงเครียดขั้นสุดจากชาติมหาอำนาจสหรัฐอเมริกา เมื่อมีการเคลื่อนกำลังทหารกองหนุนเข้าสู่ดินแดนอาหรับรับมือเหตุการณ์ที่ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศกร้าวว่า อิหร่าน ชาติคู่อริ ต้องชดใช้อย่างสาสม หลังเหตุบุกสถานทูตสหรัฐในกรุงแบกแดด ประเทศอิรัก
ถัดมาสองวัน ทรัมป์สั่งกองทัพโจมตีทางอากาศ ถล่มขบวนรถ 2 คันของกองกำลังฮาเชด อัล-ชาอาบี ที่ท่าอากาศยานนานาชาติแบกแดด สังหารนายพลกาซิม สุไลมานี ผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน หรือ กองกำลังคุดส์ และเป็นผู้ทรงอิทธิพลสูงสุดอันดับสองของประเทศ พร้อมนายทหารอื่นๆ รวม 8 ราย
แม้จะเป็นการโจมตีที่ใช้โดรนเพียงลำเดียว แต่ปลุกความเจ็บแค้นและคำประกาศล้างแค้นของอิหร่าน จนเป็นสถานการณ์ที่ทำให้นานาประเทศหวาดหวั่นถึงสงคราม ส่วนราคาน้ำมันโลกพุ่งขึ้นทันทีร้อยละ 4
นายทรัมป์เปิดแถลงอ้างว่า การสังหารนายพลอิหร่าน เป็นการป้องกันสงคราม ทั้งที่คนอื่นๆ เห็นว่า นี่เป็นการยั่วยุทางทหารที่ตึงเครียดที่สุดนับจากยุคประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช สั่งยกทัพบุกอิรัก เพื่อโค่นซัดดัม ฮุสเซน ในปี 2546
“เราใช้ปฏิบัติการนี้เมื่อคืนเพื่อหยุดสงคราม เราไม่ได้ทำเพื่อเริ่มต้นสงคราม” ทรัมป์กล่าว และข่มขู่อิหร่านต่อว่า ที่ปรึกษาทางทหารมีแผนรับมืออิหร่านไว้แล้ว
“ถ้าชาวอเมริกันไม่ว่าที่ใดถูกข่มขู่คุกคาม เรามีเป้าหมายทั้งหมดอยู่ในมือแล้ว และผมพร้อมจะใช้มาตรการที่จำเป็น ซึ่งนั่นหมายถึงอิหร่านโดยเฉพาะ”
…………….
สถานการณ์ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่นี้อุบัติที่อิรัก สมรภูมิที่สหรัฐเคยยกทัพใหญ่มาบุกเมื่อปี 2546 โค่นล้มรัฐบาลซัดดัม ฮุสเซน ฝ่ายนิกายสุหนี่ เปิดทางให้ฝ่ายนิกายชีอะห์ขึ้นมาเป็นรัฐบาลแทน แต่อิรักยังต้องเผชิญกับเหตุการณ์ความรุนแรงจากการโจมตีของกลุ่มนักรบต่างๆ อย่างต่อเนื่อง
ความซับซ้อนอยู่ที่ว่ากลุ่มนิกายชีอะห์ของอิรักมีความสัมพันธ์อันดีกับรัฐบาลอิหร่าน และเป็นความขัดแย้งในสัมพันธ์สามเส้าที่ตำใจรัฐบาลสหรัฐมาตลอด
ช่วงที่กองกำลังรัฐอิสลาม หรือ ไอเอส ฝ่ายนิกายสุหนี่ รุกคืบยึดดินแดนมากมายในอิรักทั้งภาคเหนือและภาคตะวันตก เมื่อปี 2557 อิรักเพลี่ยงพล้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทำให้อิหร่านต้องส่งกองกำลังนิกายชีอะห์เข้าช่วยต่อสู้กับไอเอส
จังหวะเวลาดังกล่าวรัฐบาลสหรัฐเองก็ส่งความช่วยเหลือให้กองกำลังอิรักด้วยเพื่อต้านทานไม่ให้ไอเอสขยายตัวเป็นภัยต่อชาติตะวันตก
อิรักจึงได้รับความช่วยเหลือจากสองทาง ทั้งจากอิหร่านและสหรัฐ กระทั่งประกาศชัยชนะยึดพื้นที่คืนจากไอเอสได้สำเร็จเมื่อเดือนธันวาคม 2560
แต่ความสัมพันธ์สามเส้า มาถึงจุดตึงเครียดรอบใหม่ใน ปี 2563
เหตุการณ์กองกำลังนักรบนำกลุ่มผู้ต่อต้านสหรัฐบุกเข้าไปในสถานทูตสหรัฐประจำอิรัก ทุบทำลายกระจกและเผาพื้นที่ด้านหน้าของอาคาร ด้วยความโกรธแค้น เมื่อวันที่ 31 ธ.ค.2562 ข้ามมาถึงวันที่ 1 ม.ค.2563 มีต้นตอมาจากการที่สหรัฐทิ้งระเบิดทางอากาศสังหารนักรบกลุ่มคาเตบ เฮซบอลเลาะห์ที่อิหร่านหนุนหลัง บริเวณพรมแดนอิรัก-ซีเรีย 5 จุดเป้าหมาย เสียชีวิตถึง 25 ศพ บาดเจ็บ 51 ราย เมื่อวันอาทิตย์ที่ 30 ธ.ค.
สหรัฐอ้างว่า กลุ่มดังกล่าวเป็นผู้สังหารผู้รับเหมาชาวอเมริกัน 1 ราย และทำให้คนอื่นๆ บาดเจ็บในพื้นที่ทหารใกล้เมืองเคอร์คุก ภาคเหนือของอิรัก เมื่อสัปดาห์ก่อนหน้า
การสั่งสอนแบบ “จัดใหญ่” ของทัพสหรัฐ 1 ชีวิต แลก 25 ชีวิตดังกล่าว โหมไฟแค้นให้นักรบฝ่ายสนับสนุนอิหร่านขึ้นมาอีก
ตอกย้ำความบาดหมางที่รัฐบาลนายทรัมป์ชวางอิหร่านเป็นศัตรู ตัวฉกาจ ถึงขั้นถอนตัวจากข้อตกลงนานาชาติด้านนิวเคลียร์กับอิหร่าน โดยไม่สนใจเสียงทักท้วงจากพันธมิตรยุโรป รัสเซีย และจีน ที่รัฐบาลนายบารัก โอบามา ทำไว้เมื่อปี 2558
จากนั้นสหรัฐก็ใช้มาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจบีบรัดอิหร่านอย่างหนักจนหาหนทางรอมชอมกันไม่ได้อีก
………..
นับจากเดือนพฤษภาคม 2562 สหรัฐส่งทหารเข้าไปเพิ่มในอ่าวเปอร์เซีย 14,000 นาย อ้างว่าได้รับข่าวกรองว่าอิหร่านจะโจมตีผลประโยชน์ของสหรัฐ จากเดิมที่สหรัฐมีกำลังทหารในอิรัก 5,200 นายไว้ต่อสู้กับไอเอส
จากนั้นเมื่อเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงในแดนอาหรับที่สหรัฐกล่าวหารัฐบาลอิหร่านอยู่เบื้องหลังครั้งใด สหรัฐก็เพิ่มกำลังทหารเข้าไปยังตะวันออกกลางมากขึ้นเรื่อยๆ
ไม่ว่าจะเป็นเหตุโจมตีเรือบรรทุกน้ำมันของซาอุดีอาระเบียในอ่าวเปอร์เซีย เหตุโดรนถล่มโรงกลั่นน้ำมันของซาอุดีอาระเบีย จนมาถึงข้อกล่าวหาล่าสุดที่นายทรัมป์ซัดใส่รัฐบาลอิหร่านว่าอยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีสถานทูต
รวมถึงครั้งล่าสุด หลังการสังหารนายพลอิหร่าน ทรัมป์ส่งทหารเพิ่มเข้าไปยังตะวันออกกลางอีก 3,000 นาย
สำหรับท่าทีของอิหร่านนอกจากปฏิเสธข้อกล่าวหาของสหรัฐ และประกาศล้างแค้นแล้ว อิหร่านยังตอกย้ำถึงการ “รู้ทัน” เป้าหมายและเจตนาปลุกเร้าสงคราม
“คุณจะเห็นได้ว่า อาชญากรรมที่คุณก่อไว้ในอิรัก อัฟกานิสถาน ทำให้หลายๆ ชาติเกลียดคุณ” อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดอิหร่าน กล่าว พร้อมย้ำทฤษฎีสมคบคิดว่า สหรัฐต้องการล้างแค้นอิหร่านที่เข้าไปปราบไอเอส เพราะสหรัฐนั่นเองที่เป็นผู้สร้างไอเอส ขึ้นมา
“ลองดูสิ่งที่สหรัฐทำในอิรักและซีเรีย พวกนั้นล้างแค้นกับกลุ่มนักรบฮาเชด อัล-ชาอาบีของอิหร่านที่เอาชนะกองกำลังไอเอสได้ เพราะ ไอเอสเกิดจากสหรัฐที่สร้างขึ้นมา ดังนั้น รัฐบาลอิหร่าน ประเทศอิหร่าน และข้าพเจ้าจึงขอประณามความเลวร้ายของสหรัฐ”
สำหรับประชาคมโลก เป็นที่น่ากลุ้มว่าการเผชิญหน้าอันน่าตึงเครียดนี้เกิดขึ้นในปีที่นายทรัมป์ต้องการชนะศึกเลือกตั้งรั้งเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐต่อเป็นสมัยที่สอง
……………..
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ผวาสงครามปะทุ จีน-รัสเซีย-ฝรั่งเศส อึ้งทรัมป์สั่งฆ่านายพล อิหร่านร่ำไห้ระคนแค้น