บีบีซีรายงานวันที่ 8 พ.ค. ว่า เจ้าหน้าที่ศูนย์การแพทย์ในมหาวิทยาลัยมิสซิสซิปปี สหรัฐอเมริกา พบพื้นที่ 20 เอเคอร์ หรือราว 50 ไร่ของมหาวิทยาลัยที่เดิมตั้งใจจะก่อสร้างอาคาร มีศพฝังอยู่อย่างน้อย 7,000 ศพ คาดว่าศพเหล่านี้เป็นคนไข้ของสถานสงเคราะห์ผู้มีสภาพจิตไม่สมประกอบ ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวเมื่อครั้งอดีต
คณะบริหารพากันมึนงงในการหาทางออก เนื่องจากถ้าจะต้องเคลียร์พื้นที่ขุดศพขึ้นมา ต้องใช้งบประมาณสูงถึง 21 ล้านดอลลาร์ หรือราว 735 ล้านบาท หรือคิดเป็นค่าขุด ศพละ 3,000 ดอลลาร์ หรือราว 1 แสนบาท ดังนั้นขณะนี้ผู้บริหารจึงพยายามคิดหาหนทางเลือกอื่นที่ใช้เงินน้อยกว่านี้
UNIVERSITY OF MISSISSIPPI
สำหรับทางเลือกที่น่าจะช่วยได้คือการสร้างสถานที่รำลึกและห้องแล็บให้นักศึกษามาเรียนรู้ศพของคนไข้เหล่านี้ รวมไปถึงเสื้อผ้าและไม้ที่ฝังอยู่ในหลุมเหล่านี้ ซึ่งจะทำให้ค่าใช้จ่ายหมุนอยู่ภายในองค์กร ตกปีละ 4 แสนดอลลาร์ หรือ 14 ล้านบาทใน 8 ปีข้างหน้า
ขณะนี้มีกลุ่มนักวิชาการที่จัดตั้งคณะที่จะศึกษาศพเหล่านี้อย่างจริงจัง
ราล์ฟ ดิดเลก ผู้ดูแลพื้นที่มหาวิทยาลัยในส่วนของศูนย์ชีวจริยธรรมและมนุษยธรรมทางการแพทย์ กล่าวว่า ในเมื่อได้รับมรดกของคนไข้เหล่านี้มาแล้ว ก็อยากจะแสดงออกถึงความเคารพและดูแลให้ดี
บันทึกรายชื่อคนไข้ของสถานสงเคราะห์
ด้านมอลลี ซักเคอร์แมน นักวิชาการมนุษยวิทยา กล่าวว่า ศพเหล่านี้เป็นทรัพยากรพิเศษของมิสซิสซิปปี อาจทำให้มิสซิสซิปปีเป็นศูนย์กลางบันทึกทางประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพในยุคก่อนช่วงเวลาร่วมสมัย โดยเฉพาะในช่วงที่เริ่มก่อตั้งสถาบัน
Advertisement
จากบันทึกประวัติศาสตร์ สถานสงเคราะห์ผู้มีจิตไม่สมประกอบสร้างเสร็จในปีค.ศ.1855 และเริ่มดำเนินการปี 1935 ก่อนหน้านั้น บุคคลที่มีจิตไม่สมประกอบมักถูกล่ามโซ่ หรือขังไว้ตามใต้ถุนบ้าน
สถิติที่บันทึกไว้ช่วงปี 1855-1877 มีคนไข้เข้ามาอยู่ในสถานสงเคราะห์นี้ 1,376 คน มากกว่า 1 ใน 5 เสียชีวิต
หลังจากสงครามกลางเมืองอเมริกาแล้ว สถานสงเคราะห์ขยายพื้นที่อย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง มีคนไข้ที่เคยสูงสุดถึง 6,000 คน หลุมศพแรกๆ ที่พบโดยทีมของมหาวิทยาลัย เกิดขึ้นเมื่อปี 2556 และจากนั้นอีกหนึ่งปี ระหว่างจะทำสถานที่จอดรถ ก็พบหลุมศพที่มากกว่า 1,000 หลุม
