อื้ออึงวาทะทรัมป์ขอปาฏิหาริย์ซีเอ็นเอ็น รายงานสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 วันที่ 28 ก.พ. ว่า วาทะของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐอเมริกา ในการรับมือไวรัส ก่อเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางอีกครั้ง นอกจากไม่ทำให้นักลงทุนคลายความกังวล ทั้งยังคลางแคลงใจว่า รัฐบาลพร้อมรับมือกับการระบาดของเชื้อได้หรือไม่ หลังผู้เชี่ยวชาญคาดคะเนว่าจะพบจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น

“มันจะค่อยๆ หายไป ในวันหนึ่งราวกับมีปาฏิหาริย์ มันจะหายไป” นายทรัมป์กล่าวในงานแถลงข่าวที่ทำเนียบขาว และว่า ไม่อยากเห็นอาการตื่นตระหนกเกินเหตุ รับรองว่าสหรัฐพร้อมมากและพร้อมอย่างที่สุดที่จะรับมือกับไวรัสโควิด-19 โดยแต่งตั้งนายไมก์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีเป็นหัวหน้าทีมรับมือแล้ว

President Donald Trump, with members of the president’s coronavirus task force, speaks during a news conference in the Brady Press Briefing Room of the White House, Wednesday, Feb. 26, 2020, in Washington. (AP Photo/Evan Vucci)

“สถานการณ์นี้มันจะจบแน่ คุณไม่จำเป็นต้องเห็นอาการกลัวจนสติแตก เพราะมันไม่มีเหตุผลที่ต้องสติแตก” ผู้นำสหรัฐกล่าว

อย่างไรก็ตาม ดร.แอนน์ ชูแช็ต จากสำนักงานป้องกันและควบคุมโรค สหรัฐ หรือ ซีดีซี ที่ยืนอยู่ข้างๆ นายทรัมป์แถลงข่าว กล่าวว่า จากนี้ไปคาดว่าจะพบผู้ติดเพิ่ม และเป็นไปได้ที่จะพบชุมชนที่แพร่เชื้อโควิด-19 ขึ้นมาทันทีทันใด

President Donald Trump (AP Photo/Manuel Balce Ceneta)

ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกแล้วเกิน 83,000 คน มีผู้เสียชีวิตแล้ว 2,800 ราย สหรัฐพบผู้ติดเชื้อแล้ว 60 คน องค์การอนามัยโลกแถลงว่า การแพร่ระบาดเข้าสู่ระดับความเสี่ยงสูงสุดแล้ว

“เราไม่ประมาทถึงความเสี่ยง เพราะมันเกิดขึ้นแล้ว วันนี้เราพูดได้ว่า ความเสี่ยงของโลกอยู่ในระดับสูงมาก เราเพิ่มจากสูงเป็นสูงมาก” นายทีโดรส กีบรีเยซุส ผอ.อนามัยโลก กล่าว

ขณะที่ตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงระนาวกราวรูด ปิดสัปดาห์การซื้อขายอย่างย่ำแย่ที่สุดนับจากเกิดวิกฤตการเงิน เมื่อปี 2551 ดัชนีดิ่งลงต่อเนื่องติดต่อกันเป็นวันที่เจ็ด เนื่องจากนักลงทุนหวาดผวากับผลกระทบทางเศรษฐกิจโลก หลังเชื้อลุกลามไปแล้วทุกทวีป เหลือเพียงทวีปแอนตาร์กติกา

Trader Fred DeMarco works on the floor of the New York Stock Exchange, Friday, Feb. 28, 2020. Global stock markets are falling further on spreading virus fears. (AP Photo/Richard Drew)

ดัชนีดาวโจนส์ของสหรัฐร่วงร้อยละ 2.5 ทันทีที่เปิดตลาดวันศุกร์ที่ 28 ก.พ. จากที่ร่วงไปก่อนหน้านี้แล้ว 1,085 จุด ส่วนตลาดหุ้นในยุโรปพากันดิ่งลงโดยพร้อมเพียงกัน เริ่มจากเยอรมนี ร่วงลงร้อยละ 5 อังกฤษ วูบลงร้อยละ 4.4 ส่วนอิตาลี ประเทศที่มีการระบาดสูงสุดในยุโรป และมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 17 ราย หุ้นดิ่งลดลงเกือบร้อยละ 4

ด้านเอเชีย หุ้นตลาดเซี่ยงไฮ้ ลดลงอีกร้อยละ 3.7 รวมทั้งสัปดาห์ ร่วงลงไปร้อยละ 5.6 นับว่าเลวร้ายสุดนับจากเดือนเม.ย.2562 ขณะที่ดัชนีนิกเคอิ ญี่ปุ่น ดิ่งลงร้อยละ 3.7 และดัชนีหุ้นเกาหลีใต้ และดัชนีหุ้นออสเตรเลีย ร่วงลงในอัตราเท่ากันที่ร้อยละ 3.3

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน