มือฆ่าหมู่คนพิการไม่รอด ยันทำเพื่อสังคม ญี่ปุ่นสั่งประหารชีวิต

มือฆ่าหมู่คนพิการไม่รอด – วันที่ 16 มี.ค. เซาท์ ไชน่า มอร์นิง โพสต์รายงานว่า นายซาโตชิ อุเอมัตสึ อดีตเจ้าหน้าที่สถานสงเคราะห์บุคคลพิการ อายุ 30 ปี ซึ่งก่อเหตุใช้มีดสังหารผู้พิการ 19 ราย บาดเจ็บ 24 คน โดยอ้างว่าทำเพื่อสังคมนั้น ถูกศาลญี่ปุ่นตัดสินโทษประหารชีวิตแล้ว

เหตุสยองขวัญดังกล่าวเกิดขึ้นที่สถานสงเคราะห์ สึคึอิ ยามายุริ-เอ็ง เมืองซางามิฮาระ จังหวัดคานางาวะ เมื่อปี 2559 โดยนายอุเอมัตสึ ซึ่งเป็นอดีตเจ้าหน้าที่นั้นใช้มีดบุกเข้าไปในสถานสงเคราะห์กลางดึกและไล่สังหารผู้พิการทุกคนอย่างไม่ละเว้น

มือฆ่าหมู่คนพิการไม่รอด

หลังเกิดเหตุนายอุเอมัตสึ เดินทางเข้ามามอบตัวกับตำรวจพร้อมอาวุธมีดในสภาพตัวเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดของเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย โดยนายอุเอมัตสึ ระบุว่า คนพิการที่ไม่สามารถสื่อสารกับผู้อื่นได้ดีนั้นไม่มีสิทธิในฐานะมนุษย์ เป็นภาระของผู้อื่น และตนเสียสละทำเพื่อสังคม

เหตุสยองขวัญดังกล่าวสร้างความตกตะลึงให้กับสังคมชาวญี่ปุ่น ขณะที่ทนายความของนายอุเอมัตสึ นั้นโต้แย้งว่า นายอุเอมัตสึ มีสภาพจิตใจผิดปกติ และไม่ควรต้องรับผิดชอบใดๆ ต่ออาชญากรรมที่เกิดขึ้น ขณะที่นายอุเอมัตสึ ยืนยันว่าจะไม่ขออุทธรณ์คำตัดสินของศาล ไม่ว่าจะเป็นโทษสถานใดก็ตาม

ด้านอัยการผู้รับผิดชอบคดี ขอให้ศาลตัดสินประหารชีวิต เนื่องจากมีผู้บาดเจ็บเสียชีวิตจากการสังหารของนายอุเอมัตสึจำนวนมาก ทั้งนายอุเอมัตสึ ยังไม่มีท่าทีสำนึกทั้งที่ก่อเหตุโหดเหี้ยมไร้ความเมตตาใดๆ ต่อเหยื่อ นายอุเอมัตสึ จึงไม่สมควรได้รับความปรานีใดๆ เช่นกัน

มือฆ่าหมู่คนพิการไม่รอด

การพิจารณาคดีครั้งล่าสุดเกิดขึ้นหลังศาลชั้นต้นสั่งเลื่อนการพิพากษามาตั้งแต่เดือนม.ค. หลังนายอุเอมัตสึ พยายามนำสิ่งแปลกปลอมใส่ปากระหว่างการพิพากษา

ผู้พิพากษา ศาลแขวงโยโกฮามา ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 19 ราย บาดเจ็บ 24 คน โดยนายอุเอมัตสึ ยังจับเจ้าหน้าที่อดีตเพื่อนร่วมงาน 5 คน มัดไว้กับราวบันได ทำให้ ในจำนวนนี้ 2 คน บาดเจ็บ ก่อนจะนำมีดเดินเข้าห้องพักไปไล่แทงผู้พิการที่กำลังนอนหลับพักผ่อนทีละคนๆ จนเลือดท่วมไปทั้งตัว

การสอบสวนของตำรวจพบว่า นายอุเอมัตสึ ลาออกจากงานที่สถานสงเคราะห์นี้ไปก่อนเกิดเหตุเมื่อหลายเดือนก่อน และถูกนำตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลท้องถิ่นเป็นเวลา 12 วัน หลังระบุกับเพื่อนร่วมงานว่า ต้องการฆ่าบรรดาผู้พิการที่ที่ทำงาน

มือฆ่าหมู่คนพิการไม่รอด

นอกจากนี้ ก่อนเกิดเหตุหลายเดือน นายอุเอมัตสึ ยังเขียนจดหมายเปิดผนึกมอบให้กับรัฐสภาญี่ปุ่น ผ่านประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยมีเนื้อหาระบุถึงแผนที่จะไล่สังหารคนพิการ 470 คน ดังนี้

“ขอบคุณที่อ่านจดหมายฉบับนี้ ผมจะได้ไปไล่ฆ่าคนพิการสัก 470 คน ผมเข้าใจดีว่าข้อความเหล่านี้มันบ้าคลั่ง แต่เมื่อผมนึกถึงสีหน้าเบื่อหน่ายของญาติคนเหล่านี้ นัยตาเหน็ดเหนื่อยของเจ้าหน้าที่ที่ต้องดูแลคนพวกนี้แล้ว มันทำให้ผมต้องลุกขึ้นมาเพื่อจัดการ เพื่อประเทศญี่ปุ่นและโลกใบนี้” พร้อมระบุว่า คนพิการนั้นควรจะหายไปเสีย

หลังเข้ามอบตัว นายอุเอมัตสึ ยังเคยให้สัมภาษณ์กับสื่อญี่ปุ่น ว่าคนพิการนั้นไม่มีหัวใจ และหากจะอยู่ต่อไปก็ไม่สร้างประโยชน์อันใด

ศาลโยโกฮามาอ่านคำตัดสิน เมื่อ 16 มี.ค. (Yokohama District Court) [Pool]

เกียวโด รายงานว่า ทนายความของจำเลยเผยว่า ลูกความมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป ตั้งแต่ปี 2558 หลังเสพกัญชาจนสภาพจิตผิดปกติ จนเกิดความเชื่ออคติอย่างรุนแรงต่อเหยื่อ แต่ศาลเห็นว่า กรณีนี้ใช้เป็นข้ออ้างไม่ได้ เพราะจำเลยวางแผนและเจตนาก่อเหตุ เช่นเดียวกับความคิดที่จำเลยต้องการเป็นฮีโร่ด้วยการสังหารคนมากมาย เป็นเรื่องที่ไม่มีใครยอมรับ

รายงานระบุว่า เหยื่อรายหนึ่งของนายอุเอมัตสึ เป็นสาวพิการอายุ 19 ปี ชื่อ มิโฮะ ถูกนายอุเอมัตสึ สังหารเสียชีวิตในบ้านพัก แม่เหยื่อระบุทางสถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเค ว่า อุเอมัตสึ นั้นไม่สมควรจะได้มีอนาคตอีก

“ชั้นเกลียดเค้า ชั้นอยากจะฉีกร่างเค้าออกเป็นชิ้นๆ โทษที่หนักที่สุดยังเบาไปสำหรับคนอย่างเค้า ชั้นจะไม่มีวันให้อภัยคนอย่างเค้าเด็ดขาด” ก่อนจะเริ่มร้องไห้และว่า “เอาชีวิตลูกสาวของชั้นคืนมา! แล้วทำไมคนอย่างแกถึงได้ยังมีชีวิตอยู่!! มันไม่ยุติธรรม ทำไม!!” แม่ของมิโฮะกล่าวทั้งน้ำตา

++++

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :

พบปมญี่ปุ่นคลั่งแทง นักจิตวิทยาชี้ต้องการฆ่าตัวตายให้โลกตะลึง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน