โควิด:พบอเมริกันตายรายแรก ย้อนถึงต้นกุมภาฯ สุขภาพดีจู่ๆสิ้นใจ

โควิด:พบอเมริกันตายรายแรก – วันที่ 23 เม.ย. ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ทางการสหรัฐอเมริกา พบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาปี 2019 หรือโควิด-19 เสียชีวิตรายแรกของประเทศคนล่าสุด ย้อนไปจนถึงวันที่ 6 ก.พ. ก่อนที่รัฐบาลสหรัฐจะประกาศใช้มาตรการห้ามคนจากจีนเข้าประเทศ

รายงานดังกล่าวมาจาก ลอสแองเจลิส ไทมส์ ระบุว่า ผู้เสียชีวิตทราบชื่อว่า นางสาวแพทริเชีย ดาวด์ อายุ 57 ปี ทำงานเป็นผู้จัดการของบริษัทด้านเซมิคอนดักเตอร์แห่งหนึ่ง ออกกำลังกายเป็นประจำ เคร่งครัดเรื่องการรับประทานอาหาร และไม่มียาโรคประจำตัวใดๆ

นายริก คาเบลโล พี่ชายของน.ส.ดาวด์ กล่าวว่า น้องสาวเป็นคนไม่สูบบุหรี่ และมีสุขภาพดี เคยเป็นนักกีฬาวิ่งแข่งตอนสมัยเรียนมัธยมฯปลาย การเสียชีวิตของน้องสาวสร้างความตกตะลึงให้กับครอบครัวมาก โดยแพทย์เชื่อว่ามาจากอาการหัวใจวายเฉียบพลัน

การรายงานนี้เกิดขึ้นหลังสำนักงานปกครองเขตซานตา คลารา เคาน์ตี รัฐแคลิฟอร์เนีย ประกาศพบผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ย้อนไปถึงวันที่ 6 ก.พ. เป็นเพศหญิง 1 ราย อายุ 57 ปี และเพศชายอีก 1 ราย อายุ 67 ปี เมื่อ 17 ก.พ.

เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตซานตา คลารา แถลงข่าวโควิด / Los Angeles Times

แพทย์หญิงซารา โคดี้ ผู้อำนวยการสำนักงานสาธารณสุขเขต กล่าวว่า ผู้หญิงที่เสียชีวิตรายข้างต้นนั้นไม่มีประวัติการเดินทางไปพื้นที่เสี่ยงก่อนที่จะป่วย จึงถือว่าเป็นข้อบ่งชี้ถึงการระบาดในระดับท้องถิ่น

ลอสแองเจลิส ไทมส์ รายงานว่า นางดาวด์ ถูกพบเสียชีวิตที่บ้านเมื่อ 6 ก.พ. โดยก่อนหน้าเกิดเหตุมีอาการป่วยคล้ายไข้หวัด แต่อาการดีขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่มีสัญญาณความผิดปกติแสดงให้เห็นหลังโทรศัพท์หาพี่ชาย ว่าไม่สามารถเดินทางไปเยี่ยมครอบครัวได้ที่เมืองสต็อกตัน

นายคาเบลโล พี่ชาย เล่าว่า “เธอบอกกับผมว่ารู้สึกไม่สบายครับ ซึ่งมันแปลกมากสำหรับคนอย่างเค้า ผมยังจำได้กับหูเลยว่าเธอพูดเลยว่า รู้สึกไม่ค่อยดี” นอกจากนี้ การสืบสวนยังพบว่า นางดาวด์ ยกเลิกการเดินทางไปร่วมพิธีฝังศพกระทันหันในช่วงสุดสัปดาห์

Jim Wilson/The New York Times

รายงานระบุว่า น.ส.ดาวด์ เริ่มทำงานที่บ้านในช่วงที่ป่วยแล้วอาการเริ่มดีขึ้นตามลำดับ โดยการติดต่องานกับเพื่อนร่วมงานครั้งสุดท้ายมีขึ้นเมื่อเวลา 08.00 น. ของวันที่ 6 ก.พ. แต่ไม่กี่ชั่วโมงต่อมาก็ถูกพบว่าเสียชีวิตอยู่ในบ้าน

แถลงการณ์ของสำนักงานเขตซานตา คลาร่า ระบุว่า ผู้เสียชีวิตทั้งสองราย ไม่ได้รับการตรวจชันสูตรหาเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ตอนเสียชีวิต เนื่องจากชุดตรวจมีจำกัด และทางศูนย์ควบคุมโรคระบาด หรือซีดีซี มีแนวทางปฏิบัติให้ตรวจเฉพาะผู้ที่แสดงอาการ และมีประวัติเดินทางไปพื้นที่เสี่ยงเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม หลังเกิดการระบาดในสหรัฐ กรณีการเสียชีวิตของผู้ป่วยทั้ง 2 รายนี้ ก่อให้เกิดความสงสัยจากเจ้าหน้าที่ชันสูตร เพราะก่อนเสียชีวิตนั้นมีอาการคล้ายไข้หวัด จึงนำชิ้นเนื้อส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการและพบผลบวกโควิด-19

ล่าสุด ทางสำนักงานเขตอยู่ระหว่างส่งตัวอย่างชิ้นเนื้อให้กับซีดีซีเพื่อตรวจยืนยันอีกครั้งหนึ่ง แต่ผู้เชี่ยวชาญคาดว่า น่าจะมีผู้เสียชีวิตอีกหลายรายจากโรคโควิด-19 ก่อนหน้านี้ ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตในสหรัฐปัจจุบันยังไม่ตรงกับความเป็นจริง

ทั้งนี้ ศูนย์วิทยาศาสตร์ และวิศวกรรมเชิงระบบ มหาวิทยาลัยจอห์น ฮ็อปกินส์ ในสหรัฐ ระบุว่า สหรัฐพบผู้ติดเชื้อแล้วถึง 842,624 คน เสียชีวิตแล้ว 46,785 ราย ถือว่าสูงที่สุดในโลก มีผู้หายป่วย 76,614 คน และตรวจพลเมืองไปแล้ว 4,482,434 คน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน