เวียดนามฟื้นการท่องเที่ยวแล้ว ลดราคาเกาะสวรรค์ บูมคนในประเทศ
เวียดนามฟื้นการท่องเที่ยวแล้ว – เมื่อ 19 พ.ค. รอยเตอร์ รายงานว่า ทางการเวียดนามเริ่มมาตรการฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแล้ว ด้วยการประกาศลดราคาที่พักตามสถานที่ท่องเที่ยวทั่วประเทศ รวมถึงเกาะฟู้โกว๊ก ที่ได้ชื่อว่าเป็นเกาะสวรรค์ อยู่นอกชายฝั่งทางตอนใต้ ใกล้กับกัมพูชา
เวียดนามเป็นประเทศแรกๆ ของอาเซียนที่เริ่มเดินเครื่องฟื้นฟูเศรษฐกิจ แม้จะยังแบนนักท่องเที่ยวต่างชาติ บรรดาโรงแรม รีสอร์ต และตลาดท่องเที่ยวต่างๆ พากันลดราคากันกระหน่ำเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวภายในประเทศ
หลังจากเผชิญกับสถานการณ์โควิด-19 เหมือนประเทศอื่นๆ ยอดนักท่องเที่ยวของเวียดนามเมื่อเดือนเม.ย. 2563 วูบหายไปถึงร้อยละ 98 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปี 2562
แต่ทางการเวียดนามรับมือกับโรคระบาดได้ทันท่วงที มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพียง 324 คน และไม่มีผู้เสียชีวิต นำไปสู่การฟื้นฟูทางเศรษฐกิจที่นำหน้าชาติเพื่อนบ้านในภูมิภาค ขณะที่มีรายงานล่าสุด ว่าบรรดาสายการบินในประเทศของเวียดนามนั้นต่างมีผู้ใช้บริการมากขึ้นจนที่นั่งเกือบเต็มทุกสาย
มาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐบาลเวียดนามเริ่มมีผลตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยรัฐริเริ่มจากการรณรงค์เน้นตลาดภายในประเทศก่อนด้วยสโลแกนว่า “คนเวียดนามเที่ยวเวียดนาม” พร้อมส่วนลดจำนวนมาก แต่มุ่งเน้นการบริการที่มีคุณภาพ
เป็นไปตามดำริของนายเหวียน ซวน ฟุก นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ที่ยังมองว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติน่าจะยังมีน้อย เพราะหลายชาติยังเผชิญกับวิกฤตโควิด-19 และการเปิดประเทศให้ชาวต่างชาติเข้ามาเร็วเกินไปอาจทำให้เกิดการระบาดของโรคโควิด-19 ขึ้นอีกจนควบคุมได้ยาก
ทั้งนี้ เวียดนามเป็นชาติที่มีรายได้จากการท่องเที่ยวมหาศาลถึง 31,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 9.8 แสนล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 12 ของอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจเมื่อปี 2562 ในจำนวนนี้ เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 103 ล้านคน
ด้านสถานการณ์ในชาติที่มีรายได้จากการท่องเที่ยวอื่นๆ ในภูมิภาค อาทิ อินโดนีเซีย ซึ่งมีเกาะบาหลีเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมจากชาวต่างชาติทั่วโลก ยังเผชิญกับความไม่แน่นอนเนื่องจากมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ที่ทำให้การเดินทางระหว่างประเทศนั้นยากลำบาก และสถานการณ์โรคโควิด-19 ในอินโดฯ ยังควบคุมไม่ได้
นายเคนท์ แอตคินสัน รองประธานสำนักงานที่ปรึกษาการท่องเที่ยวของเวียดนาม มองว่า ทางเลือกทางหนึ่งของเวียดนามน่าจะเป็นการสร้างเครือข่ายร่วมกับชาติที่สามารถควบคุมการระบาดได้แล้ว เพื่ออำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวไปมาหาสู่กันได้ง่ายขึ้น อาทิ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์
อย่างไรก็ดี นายแอตคินสัน ระบุว่า เวียดนามมีนักท่องเที่ยวจากจีนและเกาหลีใต้มากที่สุด ดังนั้นรัฐบาลจำเป็นต้องมีแผนความร่วมมือเป็นพิเศษกับรัฐบาลของชาติเหล่านี้ไว้ด้วย
ทัศนะดังกล่าวสอดคล้องกับนายวิลเลียม ฮันดริกแมน ผู้จัดการใหญ่ของโรงแรมโซฟิเทล กรุงฮานอย ที่มองว่า ตลาดการท่องเที่ยวเอเชียน่าจะเป็นที่แรกในโลกที่ฟื้นตัวก่อน โดยตอนนี้ต้องมุ่งเน้นไปที่การให้บริการลูกค้าในประเทศ
+++
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
โควิด-19: เวียดนามประสบความสำเร็จ ในการควบคุมการติดเชื้อได้อย่างไร