รมต.อ้างม็อบ “ก่อการร้าย” บี้ออกกฎคุมความมั่นคงฮ่องกง
รมต.อ้างม็อบ “ก่อการร้าย” – วันที่ 25 พ.ค. บีบีซี และ โกลบอลไทมส์ รายงานความคืบหน้าสถานการณ์ความขัดแย้งตึงเครียดใน ฮ่องกง หลังกลุ่มผู้ประท้วงจำนวนมากรวมตัวเดินขบวนต่อต้านการพิจารณาร่างกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติในฮ่องกง ของสภาประชาชนแห่งชาติจีน (เอ็นพีซี) เมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา
ก่อนบานกลายเกิดการปะทะดุเดือดระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งยิงแก๊สน้ำตาและสเปรย์พริกไทยใส่ผู้ประท้วง ว่า
นายจอห์น ลี รมว.ความมั่นคงของฮ่องกง ออกแถลงการณ์เมื่อเช้าวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาฮ่องกงเผชิญกับความรุนแรงเป็นทวีคูณ โดยหลายกรณีมีความเกี่ยวข้องกับวัตถุระเบิด และอาวุธปืน สิ่งเหล่านี้เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคง ส่งผลให้ร่างกฎหมายฉบับนี้มีความสำคัญยิ่ง รวมถึงจะเป็นเครื่องการันตีความเจริญรุ่งเรืองและความยั่งยืนในระยะยาวของฮ่องกง
“การก่อการร้ายกำลังเติบโตในฮ่องกง และกิจกรรมที่เป็นอันตรายต่อความมั่นคง เช่น การเรียกร้องอิสรภาพของฮ่องกง กลายเป็นการอาละวาดที่ป่าเถื่อนมากขึ้น” นายลีกล่าว พร้อมประณามการใช้กำลังของกลุ่มผู้ประท้วงที่สนับสนุนการแบ่งแยกฮ่องกงออกจากจีนแผ่นดินใหญ่
นอกจากนี้ยังยืนกรานสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่โดยชอบตามกฎหมายของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากเตือนผู้ชุมนุมแล้วว่าการรวมตัวประท้วงในที่สาธารณะขัดต่อมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมในช่วงที่ทั่วโลกยังประสบวิกฤตโรคโควิด-19 แต่ผู้ประท้วงไม่ทำตาม ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ต้องใช้วิธีการขั้นเด็ดขาดเพื่อสลายการชุมนุม
การปะทะเมื่อวันอาทิตย์แสดงให้เห็นถึงความจำเป็นและความเร่งด่วนที่สภาประชาชนแห่งชาติจีนต้องตัดสินใจรับรองกฎหมายความมั่นคงฉบับนี้ เพื่อความรุ่งเรืองและความยั่งยืนกว่าของฮ่องกง
ไม่นานหลังจากนายลีแถลงการณ์ หน่วยงานควบคุมทางวินัยของภาครัฐ 6 หน่วยงาน ได้แก่ สำนักงานตำรวจฮ่องกง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ศุลกากรและสรรพสามิต สำนักงานบริการดับเพลิง ราชทัณฑ์ และหน่วยงานช่วยเหลือด้านการบิน ออกแถลงการณ์ให้สัญญาว่าจะทำหน้าที่เพื่อประโยชน์แห่งความมั่นคงของฮ่องกง
ด้านพล.ต.อ.คริส ถัง ผู้บัญชาการตำรวจฮ่องกง กล่าวยินดีที่สภาประชาชนแห่งชาติจีนจะพิจารณาบังคับใช้ร่างกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติในฮ่องกง โดยให้เหตุผลว่าสถานการณ์ความมั่นคงของฮ่องกงอยู่ในจุดเสี่ยงที่สุดและจำเป็นต้องใช้มาตรการที่มีประสิทธิภาพเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความรุนแรงที่อาจกลายเป็นวิกฤตทางความมั่นคงในอนาคต
วันเดียวกัน นายโรเบิร์ต โอไบรเอน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของทำเนียบประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา กล่าวเตือนว่าสหรัฐอาจถอดถอนสถานะการค้าพิเศษที่มอบให้ฮ่องกง หากจีนพยายามผ่านร่างกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับนี้ โดยสิทธิพิเศษที่นายโอไบรเอนกล่าวถึงคือกฎหมายของสหรัฐเมื่อปี 2535 ที่มอบสิทธิพิเศษทางการค้า เศรษฐกิจ และการลงทุนกับฮ่องกง
เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนายหวัง อี้ รมว.ต่างประเทศของจีน กล่าวเตือนว่าความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐไม่ต่างจากอยู่ปากเหวของสงครามเย็นยุคใหม่
“ผมมองไม่เห็นว่าฮ่องกงจะยังเป็นศูนย์กลางทางการเงินของเอเชียได้อย่างไร หากพรรคคอมมิวนิสต์จีนเดินหน้าผ่านร่างกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ และเข้าครอบครองฮ่องกง นี่เป็นโศกนาฏกรรมของชาวฮ่องกงและจะเป็นเรื่องเลวร้ายเช่นกันสำหรับจีน” นายโอไบรเอนกล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: