จู่ๆบราซิลลบยอดโควิด ทั้งป่วย-ตาย แจ้งแค่ตัวเลขรายวัน ไม่นับสะสม
จู่ๆบราซิลลบยอดโควิด – วันที่ 7 มิ.ย. เอพี รายงานว่า เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง กรณีรัฐบาลประธานาธิบดี ฌาอีร์ โบลซานารู แห่งบราซิล ลบข้อมูลสะสมผู้ป่วยและเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ที่บันทึกมาหลายเดือนออกจากเว็บไซต์ของรัฐบาล
รัฐบาลแนวขวาเข้มข้นของนายโบลซานารูอ้างว่า จากนี้ไปจะบันทึกเฉพาะตัวเลขแต่ละช่วง 24 ชั่วโมงเท่านั้น ไม่ให้ตัวเลขสะสมแบบที่หลายประเทศส่วนใหญ่ทำ เพราะตัวเลขสะสมไม่ได้สะท้อนภาพสถานการณ์การติดเชื้อในปัจจุบัน แต่ไม่อธิบายว่าทำไมถึงลบข้อมูลตัวเลขสะสมออกไป บอกเพียงว่า เพื่อพัฒนาการรายงานตัวเลขโควิด-19 ให้ดีขึ้น
การตัดสินใจดังกล่าวถูกสื่อมวลชน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร วิจารณ์อย่างหนัก จังหวะที่บราซิลมีตัวเลขยอดผู้เสียชีวิตต่อวันกว่า 1,000 ราย ติดต่อกัน 4 วัน ใน 24 ชั่วโมง ข้อมูลทางการล่าสุดบันทึกว่ามีผู้ติดเชื้อ 27,075 คน เสียชีวิต 904 ราย ผู้ป่วยที่รักษาหาย 10,209 คน
บราซิลเป็นประเทศที่มียอดผู้ติดเชื้อมากเป็นลำดับที่สองของโลก มากกว่า 615,000 คน แต่เชื่อว่ามีผู้ติดเชื้อสูงกว่าสถิติดังกล่าวมากเพราะการตรวจหาโควิด-19 ยังไม่เพียงพอ และมียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่มากกว่าประเทศอื่นๆ ส่วนยอดผู้เสียชีวิตมากกว่า 34,000 คน สูงเป็นลำดับที่สามของโลก
อีกทั้งผู้นำบราซิลยังถูกวิพากษ์วิจารณ์มาตลอดกรณีไม่ล็อกดาวน์ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลกหรือ WHO ทั้งยังขู่ที่จะถอนตัวจาก WHO ด้วยข้อกล่าวหาว่าเป็นองค์กรที่เอียงข้างทางการเมือง
อ่านข่าว : ปธน.บราซิลเปรย “ถอนตัว” จาก WHO ชี้อคติ-ทำงานมั่ว
สำหรับยอดผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ทั่วโลกเกิน 400,000 รายไปแล้ว และยอดผู้ติดเชื้อแตะ 7 ล้านคนทั่วโลก หลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในภูมิภาคละตินอเมริกา โดยสหรัฐอเมริกายังครองอันดับ 1 ประเทศที่มีผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิต และอาจเป็นชาติที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดในโลก เนื่องจากวิกฤตครั้งนี้ทำให้หลายล้านคนตกงาน เฉพาะเดือนพ.ค. เพิ่มอีก 2.5 ล้านคน
อย่างไรก็ตาม นายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐกล่าวว่า ประเทศสหรัฐกำลังกระเตื้องขึ้นมา ทั้งมีเศรษฐกิจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โลก และความแกร่งดังกล่าวทำให้สหรัฐผ่านโรคระบาดที่น่ากลัวนี้ไปได้ และผ่านมาได้เป็นส่วนใหญ่แล้ว นับว่ากำลังทำได้ดีอย่างมาก
ด้านสถานการณ์ของยุโรป หลายประเทศค่อยๆ ดำเนินการตามแผนมุ่งสู่ภาวะปกติหลังโรคระบาด รวมทั้งมองหาทางที่จะฟื้นฟูภาคท่องเที่ยวในช่วงฤดูร้อน สหภาพยุโรปหรืออียู แจ้งเปิดพรมแดนอีกครั้งแก่นักท่องเที่ยวจากนอกภูมิภาคในช่วงต้นเดือนก.ค.
บางประเทศในอียูเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวจากยุโรปด้วยกันแล้ว เช่น ฝรั่งเศส พระราชวังแวร์ซายส์เปิดให้บริการอีกครั้ง แม้ไม่มีนักท่องเที่ยวสหรัฐและจีนที่คิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 3 ของนักท่องที่ยวทั้งหมดที่เยือนพระราชวัง
++++