เมื่อวันที่ 6 ก.ค. เอเอฟพีรายงานความเคลื่อนไหวของทางการสหรัฐอเมริกา ภายหลังเกาหลีเหนือประสบความสำเร็จในการทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีป หรือไอซีบีเอ็ม พิสัยกลาง ที่คาดว่าสามารถยิงได้ถึงรัฐอลาสก้า ของสหรัฐ ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ กล่าวระหว่างเดินทางเยือนประเทศโปแลนด์ ว่าพิจารณาจะใช้มาตรการตอบโต้ “ขั้นร้ายแรง”
“ผมขอเรียกร้องทุกประเทศให้เผชิญกับการข่มขู่โลกและแสดงให้เกาหลีเหนือรู้ตัวว่าจะมีผลลัพธ์ที่ตามมาจากพฤติกรรมที่แย่มากๆๆ” นายทรัมป์กล่าว และว่า “ผมกำลังคิดถึงสิ่งที่ค่อนข้างร้ายแรง แต่ไม่ได้หมายถึงว่าเราจะทำต่อพวกเขานะ”
ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ยังระบุผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวที่กระทบไปถึงจีน ก่อนเดินทางไปร่วมประชุมจี 20 ที่เมืองฮัมบูร์ก ประเทศเยอรมนี และพบปะประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ว่า มูลค่าการค้าระหว่างจีนกับเกาหลีเหนือเพิ่มขึ้นร้อย 40 ในช่วงไตรมาสแรกของปี แต่กลับมาบอกว่าจะให้ความร่วมมือกับสหรัฐ ก่อนทิ้งท้ายด้วยประโยคว่า “นี่เราอุตส่าห์ให้โอกาสแล้วนะ”
ด้านน.ส.นิกกี ฮาลีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำสหประชาชาติ กล่าวแนวทางเดียวกันในการประชุมหารือของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็นเอสซี ว่าสหรัฐมีความพร้อมในการใช้กำลังทางทหารจัดการกับเกาหลีเหนือหากจำเป็นต้องทำ เนื่องจากการทดสอบไอซีบีเอ็มของเกาหลีเหนือนั้นทำให้ประชาคมโลกตกอยู่ในอันตรายมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สหรัฐจะเดินหน้ายื่นร่างมติใหม่ให้กับยูเอ็นเอสซีเพื่อยกระดับมาตรการคว่ำบาตรต่อเกาหลีเหนือให้เข้มข้นยิ่งขึ้น และอาจพุ่งเป้าหมายไปที่ชาติซึ่งเป็นคู่ค้ากับเกาหลีเหนือ
ขณะที่ทางการรัสเซียแสดงความไม่เห็นด้วย และยืนยันว่าสหรัฐไม่ควรนำการใช้กำลังทางทหารมาแก้ไขปัญหาคาบสมุทรเกาหลี ส่วนจีนแถลงเตือนทุกฝ่ายให้ระมัดระวังท่าทีและคำพูดที่อาจทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง