โควิดพ่นพิษสิงคโปร์ – วันที่ 14 ก.ค. บีบีซี รายงานว่า การระบาดของโควิด-19 ทำให้เศรษฐกิจของสิงคโปร์ในไตรมาสที่สองเข้าสู่ภาวะถอดถอยอย่างรวดเร็ว เนื่องจากการขยายล็อกดาวน์จนภาคธุรกิจและการจับจ่ายใช้สอยได้รับผลกระทบ

The Merlion Statue stands in a near-empty Merlion Park in Singapore on Monday, July 6, 2020. Prime Minister Lee Hsien Loong vowed to hand over Singapore “intact” and in “good working order” to the next generation of leaders, predicting the coronavirus crisis will “weigh heavily” on the nation’s economy for at least a year. Photographer: Wei Leng Tay/Bloomberg

การเติบโตของเศรษฐกิจในสิงคโปร์ลดลงร้อยละ 41.2 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสแรกของปี 2563 เป็นการหดตัวมากสุดเป็นประวัติการณ์ และทางการสิงคโปร์พยากรณ์จะเป็นภาวะถดถอยเลวร้ายสุดของประเทศ นับตั้งแต่เป็นเอกราชจากมาเลเซียเมื่อปี 2503

ข้อมูลทางการสิงคโปร์เผยผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือจีดีพี ของไตรมาสที่สองของสิงคโปร์ หดตัวร้อยละ 12.6 เมื่อเปรียบเทียบปีต่อปี ถือเป็นตัวเลขเลวร้ายกว่าคาดการณ์ ส่วนจีดีพีไตรมาสแรกลดลงร้อยละ 2.2 เมื่อเปรียบเทียบปีต่อปี และลดลงร้อยละ 10.6 เมื่อเปรียบเทียบไตรมาสต่อไตรมาส

Office workers at Raffles Place. (Photo: Gaya Chandramohan)

สิงคโปร์เป็นหนึ่งในชาติแรกๆ ของโลกที่เปิดเผยข้อมูลตัวเลขการเติบโตช่วงที่เศรษฐกิจหลายประเทศอยู่ในห้วงล็อกดาวน์ สะท้อนว่าการระบาดอย่างต่อเนื่องสามารถส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลกได้

ภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงยังชี้ว่า การระบาดของโควิด-19 อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของสิงคโปร์หนักกว่าประเทศอื่นๆ ในเอเชีย ขณะที่การค้าโลกที่ตกต่ำส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตที่พึ่งพาการส่งออกของสิงคโปร์ ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมการก่อสร้างหยุดชะงักและผู้ค้าปลีกเห็นยอดขายตกต่ำเป็นประวัติการณ์

 

ในทางตรงข้าม จีดีพีของญี่ปุ่นหดตัวร้อยละ 20 ในไตรมาสที่สองจากสามเดือนก่อนหน้า ขณะที่ข้อมูลสัปดาห์นี้อาจเผยว่า เศรษฐกิจจีนตอนนี้กลับมาเติบโตอีกครั้ง

ข้อมูลจากสิงคโปร์สร้างแรงกดดันต่อพรรคกิจประชาชน (พีดีพี) ซึ่งเมื่อสัปดาห์ก่อนชนะการเลือกตั้งทั่วไปและครองที่นั่งในสภาลดลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่เป็นเอกราชเมื่อ 55 ปีก่อน และเป็นเป็นพรรคการเมืองเดียวที่เป็นรัฐบาลมาตลอด

AFP

รัฐบาลสิงคโปร์ใช้เงินราว 67,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (2.1 ล้านล้านบาท) หรือเกือบร้อยละ 20 ของจีดีพีของสิงคโปร์ ในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อสนับสนุนภาคธุรกิจและครัวเรือนที่กำลังประสบปัญหา

สิงคโปร์เริ่มผ่อนคลายล็อกดาวน์ หรือในชื่อของ การตัดวงจร (Circuit Breaker) เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. และเข้าเฟสสองของการเปิดเศรษฐกิจประเทศอีกครั้งเมื่อวันที่ 19 มิ.ย. ซึ่งอนุญาตให้ร้านค้าและร้านอาหารส่วนใหญ่กลับมาดำเนินธุรกิจ แต่ยังบังคับใช้กฎการเว้นระยะทางสังคม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน