ที่แรกในโลก? รัสเซีย – วันที่ 29 ก.ค. รายงาน ซีเอ็นเอ็น ตั้งข้อสังเกตว่า รัสเซียตั้งเป้ารับรองวัคซีนป้องกันไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ในระยะเวลาไม่เกินสองสัปดาห์ หากสำเร็จจะถือเป็นชาติแรกในโลก ท่ามกลางข้อกังวลถึงความปลอดภัย ประสิทธิภาพ และข้อสงสัยที่ว่า รัสเซียรวบรัดขั้นตอนสำคัญๆ ระหว่างการพัฒนาวัคซีนหรือไม่

An employee works at the Stabilitech laboratory in Burgess Hill south east England, on May 15, 2020 where scientists are trying to develop an oral vaccine for the COVID-19 illness. AFP

เจ้าหน้าที่รัสเซียบอกซีเอ็นเอ็นว่า กำลังดำเนินการอย่างช้าสุดถึงวันที่ 10 ส.ค. เพื่อขอรับรองวัคซีนใช้งานสาธารณะ ที่ผลิตโดยสถาบัน กามาเยลา ที่กรุงมอสโก และจะฉีดให้บุคลากรการแพทย์แนวหน้าเป็นกลุ่มแรก แต่กระทรวงสาธารณสุขรัสเซียยังไม่ยืนยันวันขอรับรองอย่างแน่นอน

นายคีริลล์ ดมีตรีฟ หัวหน้ากองทุนความมั่งคั่งอธิปไตยรัสเซีย ซึ่งสนับสนุนทุนการวิจัยวัคซีนรัสเซีย กล่าวว่า เป็นช่วงเวลาเดียวกับ สปุตนิค ดามเทียมของสหภาพโซเวียตที่ยิงสู่อวกาศเป็นดวงแรกของโลกเมื่อปี 2500 ระหว่างสงครามเย็นกับมหาอำนาจคู่แข่งอย่างสหรัฐอเมริกา

“คนอเมริกันต้องตะลึงกับเสียงสัญญาณดาวเทียมสปุตนิคแล้ว เหมือนกันวัคซีนตัวนี้ รัสเซียจะไปถึงก่อน” นายดมีตรีฟกล่าว

อย่างไรก็ตาม รัสเซียไม่ได้เปิดเผยข้อมูลวิทยาศาสตร์ว่าด้วยการทดสอบวัคซีน และซีเอ็นเอ็นไม่สามารถตรวจสอบความจริงเกี่ยวกับความปลอดภัยและประสิทธิผลของวัคซีนตามที่รัสเซียอ้าง นักวิจารณ์ระบุว่า การผลักดันเพื่อวัคซีนโควิด-19 ของรัสเซียเกิดขึ้นท่ามกลางแรงกดดันการเมืองจากรัฐบาลรัสเซีย ซึ่งต้องการฉายภาพให้รัสเซียเป็นชาติผู้ทรงอำนาจวิทยาศาสตร์โลก

CNN

นอกจากนี้ มีความกังวลเป็นวงกว้างว่า การทดสอบวัคซีนกับคนจะไม่สมบูรณ์ เนื่องจากทั่วโลกมีการทดลองวัคซีนมากมาย แต่จำนวนไม่มากเป็นการทดลองที่มีประสิทธิภาพมาก แต่นักพัฒนาส่วนใหญ่เตือน ยังต้องทำงานอีกมากกว่าจะสามารถขอรับรองวัคซีนได้

การทดลองวัคซีนบางส่วนทั่วโลกอยู่ในระยะที่สาม แต่รัสเซียยังอยู่ในระยะที่สอง และตั้งเป้าเสร็จสิ้นระยะที่สองในวันที่ 3 ส.ค. ก่อนเข้าสู่การทดสอบระยะที่สาม พร้อมกับการฉีดวัคซีนกับบุคลากรการแพทย์ นอกจากนี้ กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุว่า ทหารรัสเซียจะรับหน้าที่เป็นอาสาสมัครทดลองวัคซีนกับคนด้วย

เจ้าหน้าที่รัสเซียระบุว่า วัคซีนตัวนี้จะได้รับรองอย่างรวดเร็ว เนื่องจากการระบาดใหญ่ทั่วโลก อีกทั้ง รัสเซียเองประสบปัญหาไวรัสโคโรนารุนแรง ด้วยยอดผู้ติดเชื้อมากกว่า 800,000 คน ส่วนข้อมูลวิทยาศาสตร์ของวัคซีนตัวนี้อยู่ระหว่างรวบรวมและจะให้ผู้เชี่ยวชาญคนนอกเข้ามาตรวจสอบความถูกต้อง (peer review) ก่อนจะตีพิมพ์ช่วงต้นเดือนสิงหาคม

เจ้าหน้าที่รัสเซียระบุด้วยว่า วัคซีนตัวนี้ได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเป็นวัคซีนรุ่นดัดแปลงที่สร้างขึ้นมาเพื่อป้องกันโรคอื่นอยู่แล้ว เป็นวิธีการเดียวกับที่หลายประเทศและหลายบริษัทวัคซีนใช้กัน

CNN

ตัวอย่าง โมเดอร์นา (Moderna) ที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกาสนับสนุน และเริ่มการทดสอบระยะที่สาม เมื่อวันที่ 28 ก.ค. สร้างมาจากวัคซีนหลัก (backbone of a vaccine) ที่พัฒนาเพื่อป้องกัน ไวรัสทางเดินหายใจตะวันออกกลาง หรือ เมอร์ส (MERS) ขณะนี้วัคซีนของโมเดอร์นาอยู่ระหว่างเร่งกระบวนการพัฒนา และหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐและยุโรปต้องการทดสอบความปลอดภัยและประสิทธิภาพเต็มรูปแบบ ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลกระบุว่า ยังไม่มีวัคซีนที่ได้รับรองป้องกันเมอร์ส

“รัสเซียแบ่งสถานะความเป็นผู้นำพัฒนาวัคซีนและแพลตฟอร์มวัคซีนอย่างอีโบลาหรือเมอร์ส ที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว เพื่อนำวัคซีนสูตรปลอดภัยและมีประสิทธิภาพครั้งแรก มาแก้ปัญหาใหญ่ที่สุดในโลก” นายดมีตรีฟกล่าวและว่า นักวิทยาศาสตร์รัสเซียไม่ได้สนใจเป็นที่หนึ่ง แต่ต้องการปกป้องชีวิต

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

โควิด-19 : รัสเซียปฏิเสธข้อกล่าวหาขโมยข้อมูลวัคซีนจากชาติตะวันตก ขณะยูเอ็นขอนานาชาติ 3 แสนล้านบาทสู้ไวรัส

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน