อบอุ่นพระทัย – วันที่ 16 ต.ค. บีบีซี รายงานว่า เจ้าหญิงเดลฟีน พระธิดาในอดีต สมเด็จพระราชาธิบดีอัลแบร์ที่ 2 ทรงพบ สมเด็จพระราชาธิบดีฟีลิป กษัตริย์แห่งราชวงศ์เบลเยียม เป็นครั้งแรกอย่างอบอุ่น นับตั้งแต่ที่เจ้าหญิงทรงได้รับฐานันดรศักดิ์ ตามคำตัดสินของศาลที่ให้พระองค์ชนะการต่อสู้ทางกฎหมายยาวนานจากการอ้างความเป็นธิดานอกสมรสในอดีตกษัตริย์อัลแบร์ที่ 2
สำนักพระราชวังเบลเยียมเผยแพร่พระฉายาลักษณ์ร่วมระหว่างเจ้าหญิงเดลฟีน และสมเด็จพระราชาธิบดีฟีลิป ที่ทรงเป็นพี่น้องร่วมพระบิดา ณ พระราชวังลาเกิน ที่พำนักแห่งราชวงศ์เบลเยียม ในกรุงบรัสเซลส์ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พร้อมเผยแพร่แถลงการณ์ร่วมของทั้งสองพระองค์ว่า
“การพูดคุยกันยาวนานและมากมายทำให้พวกข้าพเจ้ามีโอกาสเรียนรู้กันและกัน ข้าพเจ้าพูดคุยถึงชีวิตของเราและความสนใจร่วมกัน ความผูกพันนี้จะดียิ่งขึ้นไปในสภาพแวดล้อมของความเป็นครอบครัว”
ความเคลื่อนไหวภายในราชวงศ์เบลเยียมถือเป็นเรื่องน่ายินดี เนื่องจากเจ้าหญิงตรัสเคยตรัสว่า พระบิดาและพี่น้องร่วมพระบิดาทรงปฏิเสธที่จะปฏิสันถารกับองค์หญิงด้วย
ข่าวลือว่าอดีตกษัตริย์อัลแบร์ที่ 2 ทรงมีลูกนอกสมรสครั้งแรกในปี 2542 เมื่อ บารอนเนส ซีบิล เดอ เซลีส ลองฌองป์ พระมารดาในเจ้าหญิงเดลฟีน อ้างว่าตนเองกับอดีตกษัตริย์อัลแบร์มีสัมพันธ์กันระหว่างปี 2509-2527 ช่วงที่พระองค์ยังดำรงพระยศเป็นเจ้าชายอัลแบร์แห่งลีแย จึงเป็นประเด็นอื้อฉาว ซุบซิบในประเทศ
ต่อมา เจ้าหญิงเดลฟีน หรือพระนามเดิม เดลฟีน โบเอล ศิลปินหญิง ทรงให้สัมภาษณ์สื่อครั้งแรกเมื่อปี 2548 ว่ากษัตริย์อัลแบร์ที่ 2 เป็นพ่อบังเกิดเกล้า ก่อนจะยื่นฟ้องต่อศาลเมื่อปี 2556 ซึ่งอดีตกษัตริย์อัลแบร์ที่ 2 ทรงสละราชสมบัติ จึงสูญเสียเอกสิทธิ์คุ้มครองทางกฎหมาย
แต่อดีตกษัตริย์อัลแบร์ที่ 2 ทรงปฏิเสธมาตลอด และไม่ยอมเข้ารับการตรวจสารพันธุกรรม หรือดีเอ็นเอ เพื่อพิสูจน์ความเป็นพ่อลูกตามคำสั่งศาล กระทั่งศาลต้องสั่งปรับวันละ 5,000 ยูโร หรือราว 180,000 บาท จนกว่าพระองค์จะทรงเข้ารับการตรวจดีเอ็นเอ
เดือนม.ค. 2563 อดีตกษัตริย์อัลแบร์ที่ 2 ทรงยอมรับว่า เจ้าหญิงเดลฟีนทรงเป็นทายาทองค์ที่ 4 ในพระองค์เอง ภายหลังทรงทราบผลการทดสอบดีเอ็นเอที่ชี้ว่า ทั้งสองพระองค์มีความสัมพันธ์ทางสายพระโลหิต
ในที่สุด 1 ต.ค. 2563 ศาลสูงกรุงบรัสเซลส์ตัดสินให้เจ้าหญิงเดลฟีนทรงชนะคดี ทำให้พระองค์ได้รับฐานันดรศักดิ์และสิทธิในมรดกเท่าเทียมกับทายาทสามพระองค์ในอดีตกษัตริย์อัลแบร์ที่ 2 กับ สมเด็จพระราชินีเปาลา ได้แก่ สมเด็จพระราชาธิบดีฟีลิป เจ้าหญิงอัสตริด และ เจ้าชายโลร็อง
นอกจากนี้ เจ้าหญิงเดลฟีน พร้อมด้วย โจเซฟีน และ ออสการ์ ธิดาและโอรสในองค์หญิงเอง สามารถใช้ราชสกุล ซัคเซิน-โคบวร์ค ของพระบิดาได้
อย่างไรก็ตาม เจ้าหญิงเดลฟีนจะทรงไม่ได้รับเงินพระราชทานในฐานะเชื้อพระวงศ์ (royal endowment) แต่อดีตกษัตริย์อัลแบร์ที่ 2 พระชนมพรรษา 86 พรรษา ในฐานะผู้แพ้คดี ยังต้องทรงชำระค่าธรรมเนียมทางกฎหมายของเจ้าหญิงเดลฟีนเกือบ 3.4 ล้านยูโร หรือราว 124 ล้านบาท
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ธิดานอกสมรสอดีตคิงเบลเยียม ตรัสครั้งแรกในยศเจ้าหญิง ไม่คาดหวังอะไรจากราชวงศ์