เนื่องจากการแพร่ระบาดทำให้ผู้คนอยู่กับโลกออนไลน์มากขึ้น ทำให้ผู้หญิงถูกข่มขืนและใช้ประโยชน์ทางเพศเพื่อนำไปเป็นสื่ออนาจาร ทั้งยังถูกคุกคามทางออนไลน์มากขึ้น

Reuters

เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ.2563 สำนักข่าว อัลจาซีรา รายงานว่า เนื่องจากการแพร่ระบาดทำให้ผู้คนอยู่กับโลกออนไลน์มากขึ้น ทำให้ผู้หญิงถูกข่มขืนและใช้ประโยชน์ทางเพศเพื่อนำไปเป็นสื่ออนาจาร ทั้งยังถูกคุกคามทางออนไลน์มากขึ้น

“ผู้หญิงต้องเผชิญกับความรุนแรงของการคุกคามทางออนไลน์ที่เพิ่มขึ้น ทั้งยังถูกข่มขืนและการแสวงหาประโยชน์ทางเพศเพื่อเป็นสื่ออนาจาร เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 กระตุ้นให้ผู้คนอยู่ในโลกออนไลน์มากขึ้นเรื่อย ๆ” ผู้เชี่ยวชาญด้านสื่อ กล่าว

แพทริเซีย คัมโปซ เมลโล นักข่าวหญิง ชาวบราซิล กล่าวว่า เธอต้องเผชิญกับการโจมตีทางออนไลน์ซ้ำแล้วซ้ำอีกเนื่องจากการรายงานเกี่ยวกับการจัดการวิกฤต COVID-19 ของรัฐบาลบราซิล มีม หลายพันชิ้นแพร่กระจายบนอินเทอร์เน็ต ซึ่งใบหน้าของฉันปรากฏในภาพตัดต่ออนาจาร” เมลโลกล่าวกับงาน Trust Conference ประจำปีของ Thomson Reuters Foundation ซึ่งจัดขึ้นทางออนไลน์ในปีนี้ เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

“ผู้คนในอินเทอร์เน็ตเรียกฉันว่าโสเภณี และบอกว่าฉันมีเพศสัมพันธ์เพื่อแลกกับข่าว นอกจากนี้ ฉันได้รับข้อความว่าฉันสมควรถูกข่มขืนอีกด้วย”

Patricia Campos Mello / IFEX

นักรณรงค์ด้านสิทธิสตรีทั่วโลกเตือนถึงการคุกคามทางออนไลน์ที่เพิ่มขึ้น อย่างการเผยแพร่รูปภาพหรือคลิปวิดีโอที่มีความโจ่งแจ้งทางเพศของบุคคลโดยไม่ได้รับความยินยอม เช่น การแบลกเมล์บุคคลใกล้ชิด เพื่อบีบบังคับให้ผู้หญิงที่ถูกแบลกเมล์ ไม่กล้ายุติความสัมพันธ์ หรือ ลงโทษผู้หญิงที่ขอยุติความสัมพันธ์ หรือปิดปากผู้หญิงไม่ให้มีปากมีเสียง

การกระทำดังกล่าวได้รับการอธิบายว่า เป็นรูปแบบหนึ่งของการคุกคามทางจิตใจและถือเป็นความรุนแรงในครอบครัว เช่นเดียวกับการล่วงละเมิดทางเพศรูปแบบหนึ่ง จากการสำรวจล่าสุดของกลุ่ม Plan International (องค์กรระดับนานาชาติ ที่มีจุดประสงค์เพื่อยกระดับสิทธิเด็กและความเสมอภาคสำหรับเด็กหญิง) พบว่าในช่วงโควิด-19 มีเด็กผู้หญิงที่อายุน้อยกว่าแปดขวบถูกคุกคาม โดยผู้หญิง 1 ใน 5 คนระบุว่า ตนเองเลิกหรือลดการใช้โซเชียลมีเดีย ส่วนมูลนิธิสื่อสตรีสากล (The International Women’s Media Foundation) เปิดเผยว่า 58 เปอร์เซ็นต์ของนักข่าวหญิง จาก 600 คน ที่ได้ให้สัมภาษณ์ในปี พ.ศ.2561 เคยถูกคนเข้ามาคุกคาม และ 1 ใน 10 คน ถูกขู่ฆ่า

Rana Ayyub / Inuth

ราน่า อายับ นักข่าวหญิงจากอินเดีย ได้บอกเล่า ประสบการณ์ที่เจ็บปวดว่า เธอถูกตัดต่อภาพบัญชีทางการในทวิตเตอร์ ที่เขียนสร้างความเกลียดชัง จนถูกคนขู่ฆ่าจำนวนมาก และต่อมาเธอก็ถูกตัดต่อใบหน้าของเธอไปอยู่ในสื่ออนาจาร และทำให้ดูเหมือนว่าเธอกำลังมีเพศสัมพันธ์อยู่ แฮชแท็กการเคลื่อนไหวทางสังคม #MeToo เริ่มขึ้นเมื่อ 3 ปีก่อนได้ทำให้ผู้หญิงกล้าเล่าประสบการณ์ของพวกเธอที่ถูกทำร้ายด้วยวาจา การถูกลวนลาม หรือ ข่มขืน มากขึ้น

ราน่า อายับ กล่าวว่า “การคุกคามออนไลน์จำเป็นต้องได้รับการพิจารณาอย่างจริงจังมากขึ้น และ เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้ดำเนินการใด ๆ เลย แม้ว่าฉันได้แจ้งว่าถูกขู่ฆ่าไปแล้วมากกว่า 10 ครั้ง ภัยคุกคามออนไลน์อาจเป็นอันตรายได้ เพราะมีเพียงเส้นบาง ๆ ที่กั้นอยู่ระหว่างออนไลน์และชีวิตจริง

“มันถึงเวลาแล้วที่จะประเทศต้องปลอดภัยมากขึ้นสำหรับคนที่อาศัยอยู่ คนในประเทศจะต้องไม่ถูกคุกคามจนต้องหนีออกไป” ราน่า อายับ กล่าวทิ้งท้าย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน