คดีสะท้านแดนมังกร เปิดศาลแล้ว สาวกล้าฟ้องพิธีกรดังลวนลาม
คดีสะท้านแดนมังกร – เอเอฟพี รายงานคดีล่วงละเมิดทางเพศที่ลือลั่นในสังคมจีน เมื่ออดีตนักศึกษาฝึกงานกล้าเปิดเผยเรื่องที่ตนเองถูกพิธีกรชื่อดังระดับประเทศลวนลาม เป็นกระแสเคลื่อนไหวต่อต้านการถูกล่วงละเมิดทางเพศ #MeToo ที่หาได้ยากยิ่ง
เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ศาลเขตไห่เตี้ยน กรุงปักกิ่งเปิดการไต่สวน คดีที่น.ส.โจว เสี่ยวซวน ปัจจุบัน อายุ 27 ปี ฟ้องนายจู จุน ผู้ประกาศข่าวชายชื่อดัง ใช้กำลังกอดจูบลูบคลำขณะที่ตนฝึกงานอยู่ที่สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวี
ที่ด้านหน้าศาลมีกลุ่มคน ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงมาชุมนุมสนับสนุนหญิงสาวอยู่ด้านนอกศาลประมาณ 100 คน พร้อมชูป้ายติดแฮชแท็ก “#MeToo” สื่อถึงการที่เหยื่อกล้าเปิดเผยเรื่องราวที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ
น.ส.ลูซี ลู ผู้สนับสนุนคนหนึ่งกล่าวว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม ตนคิดว่าน.ส.โจวกล้าหาญมากๆ
ส่วนน.ส.โจวกล่าวกับคนที่มาให้กำลังใจต่อสู้คดีว่า “เราอาจได้ดีใจ หรือเสียใจก็ได้ อย่าให้หัวใจพ่ายแพ้ หากประวัติศาสตร์ซ้ำรอยจะเกิดความก้าวหน้าอย่างแน่นอน”
จากนั้นน.ส.โจวให้สัมภาษณ์เอเอฟพีว่า “ดิฉันวิตกกังวลมากค่ะ แต่ไม่ว่าชนะหรือแพ้ เรื่องนี้ก็มีความหมายแล้ว ถ้าเราแพ้จริงๆ มันจะเปิดทางให้คำถามต่างๆ ที่เราหยิบยกขึ้นมายังเป็นประวัติศาสตร์ และจะมีบางคนให้คำตอบกับเราในที่สุด”
ขณะเดียวกัน เกิดเหตุกระทบกระทั่งกันเล็กน้อยระหว่างผู้สนับสนุนกับตำรวจที่เข้ามาควบคุมสถานการณ์บริเวณหน้าศาล ตำรวจสั่งให้ผู้ประท้วงวางป้ายลงพร้อมทั้งลากป้ายออกไป พร้อมเชิญตัวผู้สื่อข่าวต่างชาติ ที่มีสำนักข่าวเอเอฟพีรวมอยู่ด้วย ออกไป
น.ส.โจวกล้าเปิดเผยเรื่องนี้ทางสื่อสังคมออนไลน์ ตั้งแต่ปี 2561 ซึ่งเป็นเรื่องหาได้น้อยมากในสังคมจีน ขณะที่นายจูปฏิเสธเสียงแข็งและฟ้องกลับว่าหญิงสาวใส่ร้ายทำลายชื่อเสียง
แม้จีนผ่านกฎหมายแพ่งครั้งแรกเมื่อเดือน พ.ค.2563 ขยายนิยามของ “การล่วงละเมิดทางเพศ” แต่ผู้หญิงหลายคนไม่เห็นด้วยและมีคดีล่วงละเมิดทางเพศเข้าสู่ศาลน้อยมาก
น.ส.โจวให้สัมภาษณ์ก่อนขึ้นให้การ ว่าตนกังวลใจมาก แต่ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะคดีก็มีความหมายมาก หากแพ้คดี จะทำให้เกิดคำถามในสังคมและต้องมีใครสักคนมาตอบคำถาม
เหตุดังกล่าวเกิดเมื่อปี 2557 น.ส.โจวเล่าว่าตนอยู่ในห้องแต่งตัวกับนายจูตามลำพัง นายจูรุกเข้าหาควงแขนพร้อมกับถามตนว่าอยากจะทำงานต่อที่สถานีโทรทัศน์หลังจากฝึกงานจบแล้วหรือไม่
ตอนนั้นนายจูเป็นผู้ประกาศข่าวระดับแนวหน้าของสถานี เคยเป็นพิธีกรงานวันตรุษจีน ซึ่งซีซีทีวีจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่และเป็นรายการโทรทัศน์ที่มีผู้ชมมากที่สุดในโลกรายการหนึ่งและยังเป็นผู้ดำเนินรายการดังๆ อีกหลายรายการ
เดิมที ศาลจะพิจารณาคดีนี้โดยใช้กฎหมายสิทธิส่วนบุคคลซึ่งครอบคลุมสิทธิทางร่างกายและสุขภาพของบุคคล แต่ทนายของน.ส.โจวขอให้ศาลใช้กฎหมายใหม่
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2561 กระแส #MeToo กำลังมาแรงทั่วโลกซึ่งโจวเป็นคนหนึ่งที่ออกมาเคลื่อนไหวด้วย
น.ส. โจวกล่าวว่าเมื่อไปแจ้งความ ตำรวจกล่าวกับตนว่าการเปิดเผยเรื่องดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ ซึ่งนายจูเป็นผู้ประกาศชื่อดัง และจะทำร้ายจิตใจแฟนคลับของผู้ประกาศคนดัง
“ตอนนั้นยิ่งทำให้รู้สึกว่า ฉันไม่มีตัวตน ทั้งที่ถูกล่วงละเมิดร่างกายกลับไม่อาจต่อกรกับคนที่สร้างภาพจอมปลอมและมีอำนาจได้เลย” น.ส.โจวกล่าว
สังคมจีนยังถือว่าการเปิดเผยเรื่องทำนองนี้ในที่สาธารณะเป็นเรื่องน่าอายและเหยื่อถูกตำหนิ แต่สาวโจวไม่เสียใจที่ฟ้องคดีนี้ในชั้นศาลแม้ว่าอาจจะแพ้ก็ตาม เพราะหวังว่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้หญิงกล้าออกมาพูดมากขึ้น
แม้ว่าการเคลื่อนไหวกระแส #MeToo ในจีนถูกรัฐบาลเซ็นเซอร์ทางออนไลน์และจำกัดการเคลื่อนไหวที่เป็นประเด็นในสังคม แต่มีผู้ที่มีชื่อเสียงหลายคนถูกกล่าวหาว่าประพฤตผิดทางเพศ รวมทั้ง อดีตหัวหน้าสมาคมพุทธซึ่งเป็นองค์กรของรัฐบาลจีน
ด้านทนายลู่ เสี่ยวกวน กล่าวว่าแม้ว่าคดีล่วงละเมิดทางเพศเข้าสู่ชั้นศาลแล้ว แต่กฎหมายเหล่านี้ก็ยังเปลี่ยนแปลงความยากลำบากที่เหยื่อที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศจะต้องเผชิญไม่ได้
////////////
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : จากฮอลลีวู้ดถึงรั้วมหาวิทยาลัยจีน กระแส #MeToo กระชากหน้ากากอาจารย์หื่น