มาช้าดีกว่าไม่มา – วันที่ 15 ธ.ค. ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า นายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา กล่าวเชิดชูหลักนิติธรรม รัฐธรรมนูญ และเจตจำนงของประชาชน มีชัยเหนือประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐที่พยายามทำให้ผลการเลือกตั้งเป็นโมฆะ ภายหลังที่คณะผู้เลือกตั้ง หรืออิเล็กทอรัล คอลเลจ ลงมติเลือกนายไบเดนเป็นผู้คนต่อไปด้วยคะแนน 306 เสียงต่อ 232 เสียง

จากนั้น นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย จึงแถลงยินดีกับนายไบเดนพร้อมร่วมมือส่งเสริมความมั่นคงของโลก

“ผมหวังว่าเราสองประเทศจะมองข้ามความแตกต่างระหว่างกันเพื่อส่งเสริมความมั่นคงของโลก และปรารถนาให้ว่าที่ประธานาธิบดีไบเดนประสบความสำเร็จในทุกสิ่ง ผมพร้อมสำหรับความร่วมมือระหว่างกันและการติดต่อกับคุณ” นายปูตินแถลงหลังรอผลการเลือกตั้งของสหรัฐอย่างเป็นทางการมานาน กลายเป็นผู้นำทรงอิทธิพลโลกคนเดียวที่ไม่ได้แถลงยินดีกับนายไบเดนตั้งแต่แรก

ขณะที่นายไบเดนกล่าวที่รัฐเดลาแวร์ บรรยายความล้มเหลวของนายทรัมป์ และว่าการนับคะแนนใหม่จะไม่เปลี่ยนผลรวมคะแนนเสียงไปอย่างมาก พร้อมทั้งเรียกความพยายามของนายทรัมป์และคณะที่ใช้ศาลหวังพลิกผลการเลือกตั้งว่าสุดโต่งอย่างยิ่ง ไม่เคยเห็นมาก่อน และขอบคุณศาลฎีกาที่ปฏิเสธความพยายามของนายทรัมป์ในทันทีและโดยสิ้นเชิง

“เปลวเพลิงแห่งประชาธิปไตยถูกจุดขึ้นในประเทศนี้เมื่อนานมาแล้ว และเรารู้แล้ว ณ เวลานี้ว่า ไม่ว่าโควิด-19 หรือการใช้อำนาจในทางมิชอบ ไม่อาจดับเปลวเพลิงนั้นได้” นายไบเดนกล่าวและย้ำว่ากว่า 81 ล้านเสียงที่โหวตให้ตนเองและนางกมลา แฮร์ริส ว่าที่รองประธานาธิบดี มากที่สุดในประวัติศาสตร์และมากกว่าคะแนนที่นายทรัมป์และนายไมก์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีถึง 7 ล้านเสียง

งานที่จะทำเป็นลำดับแรกๆ ได้แก่ การต่อสู้กับโควิด-19 ที่รวมถึงการกระจายวัคซีนและการชะลอการแพร่ระบาด รวมถึงสร้างเศรษฐกิจที่ได้รับความเสียหายจากโควิด-19 ขึ้นมาใหม่

ส่วนผลการเลือกตั้งของคณะผู้เลือกตั้งจะส่งไปยังสภาคองเกรสเพื่อไปนับอย่างเป็นทางการเดือนม.ค.2564 แม้ว่าสมาชิกรัฐสภาจากพรรครีพับลิกันชี้จะปฏิเสธผลการเลือกตั้งในหลายรัฐสำคัญ จากนั้นนายไบเดนจะสาบานตนรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 ม.ค.

รมว.ยุติธรรมชิงลาเก้าอี้ก่อน

วันเดียวกัน ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศทางทวิตเตอร์ว่า นายวิลเลียม บารร์ รมว.ยุติธรรมสหรัฐ พันธมิตรที่ซื่อสัตย์ที่สุดคนหนึ่งของตนลาออก วันที่ 23 ธ.ค. ก่อนวันคริสต์มาส หลังมีข่าวความตึงเครียดระหว่างสองคนปะทุขึ้น นับจากนายบารร์กล่าวไม่มีหลักฐานการโกงอย่างแพร่หลายในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อพ.ย. นอกจากนี้ นายทรัมป์วิจารณ์นายบารร์ไม่เปิดเผยว่ากระทรวงยุติธรรมกำลังสอบสวนนายฮันเตอร์ ไบเดน ลูกชายของนายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง ทั้งนี้ นายพลเจฟฟ์ โรเซน รมช.ยุติธรรมจะทำหน้าที่รักษาการตำแหน่งรัฐมนตรีแทน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน