จีนกั้นรั้วลวดหนามกว่า 2,000 กิโลเมตร ป้องกันโควิด-19 จากเมียนมา

รายงานว่าเจ้าหน้าที่ของประเทศจีนได้ทำการตั้งรั้วลวดหนามบริเวณชายแดนระหว่างไทยกับเมียนมากว่า 2,000 กิโลเมตร เพื่อเป็นการสกัดการลักลอกขนคนเข้าเมืองและแรงงานที่ผิดกฎหมาย รวมไปเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ด้วย

ทางสื่อ The Irrawaddy ได้รายงานว่าทางประเทศจีนได้ทำการตั้งรั้วลวดหนามที่มีความสูง 3 เมตร บริเวณเมืองหวั่นติงและเมืองรุ่ยลี่ โดยทั้งสองเมืองนี้ตั้งอยู่ระหว่างพรมแดนมณฑลยูนนานของจีนและรัฐฉานของเมียนมา

ทางการจีนได้ออกมาเผยว่ารั้วดังกล่าวถูกสร้างขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการสัญจรของผู้ที่มีเชื้อโควิด-19 สู่ประเทศจีน ซึ่งในปัจจุบันเมียนมามีจำนวนผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 120,000 ราย และเสียชีวิตอีก 2,532 ราย โดยทางการจีนกลัวว่าการแพร่ของเชื้อโควิด-19 จะเข้ามาระบาดในประเทศของตนอีกครั้ง และอาจสร้างความปั่นป่วนในภาคเศรษฐกิจที่มีมูลค่ามหาศาล

นอกจากจะกันชาวเมียนมาเข้ามาในประเทศแล้ว ยังคงสกัดกั้นคนจีนที่มักจะลักลอบเข้าไปเล่นการพนันในพื้นที่ดังกล่าวด้วย โดยเขตแดนเมียนมาตกเป็นของธุรกิจจีนที่โยงใยกับการพนัน, การฟอกเงิน, การเงินแบบเข้ารหัส และกระทั่งเครือข่ายอาชญากรรม จึงมีการจัดตั้งกลุ่มกองติดอาวุธ “กองกำลังพิทักษ์ชายแดน” ขึ้น

พริสซิลลา เเคลป์ อดีตอุปทูตของสหรัฐฯ ประจำเมียนมา กล่าวว่า เขตโกกั้งในรัฐฉาน ที่มีกาสิโนสปาและโรงเเรม เป็นศูนย์กลางสำคัญของการพนันในเมียนมาแห่งหนึ่ง เธอบอกว่านักการเมืองท้องถิ่นบางคนในเมียนมาประกอบกิจการบ่อนคาสิโนในพื้นที่ดังกล่าวด้วย เช่นเดียวกับทางการจีนที่ต้องการรปราบปรามการเดินทางของชาวจีนไปยังคาสิโนในเมียนมา

ที่มา www.voacambodia.com

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน