โควิด: วันที่ 2 ม.ค. บีบีซี รายงานว่า อิสราเอล ฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อจากไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ให้ประชาชนมากกว่า 1 ล้านคน ซึ่งเป็นอัตราสูงสุดในโลก ขณะที่ความพยายามในการฉีดวัคซีนทั่วโลกเพิ่มขึ้น

โควิด:

อิสราเอลมีอัตราการฉีดวัคซีน 11.55 เข็ม ต่อประชาชน 100 คน นำหน้า บาห์เรน ที่ 3.49 และ อังกฤษ ที่ 1.47 เทียบกับ ฝรั่งเศส ที่ฉีดวัคซีนจนถึงตอนนี้ 138 คน (ข้อมูลวันที่ 30 ธ.ค.ปีที่แล้ว)

ตัวเลขดังกล่าวมาจากเว็บไซต์ Our World in Data ซึ่งติดตามข้อมูลร่วมกับ มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด และองค์กรการกุศลการศึกษาในอังกฤษ ที่วัดตัวเลขผู้ได้รับวัคซีนเข็มแรก ซึ่งส่วนใหญ่ที่ได้รับการอนุมัติให้ใช้ต้องฉีด 2 เข็ม แต่ละเข็มทิ้งระยะห่างมากกว่า 1 สัปดาห์

ขณะที่ สหรัฐอเมริกา พลาดเป้าหมายในการฉีดวัคซีน 20 ล้านคน ภายในสิ้นปีที่แล้ว ด้วยเพียง 2.78 ล้านคน ที่ได้รับการฉีดวัคซีน (ข้อมูลวันที่ 30 ธ.ค.)

แต่ นพ.แอนโธนี เฟาซี ผู้เชี่ยวชาญโรคติดเชื้ออันดับต้นๆ ของรัฐบาลสหรัฐ บอกว่า ไม่เห็นด้วยกับแผนการของอังกฤษที่จะให้ประชาชนได้รับวัคซีนเข็มแรกจาก ไฟเซอร์-บิออนเทค ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ขณะที่ชะลอการให้วัคซีนเข็มที่สอง และว่าสหรัฐจะไม่ใช้แผนการคล้ายกันด้วย

ส่วนที่ อินเดีย รัฐมนตรีสารสนเทศระบุว่า อินเดียอนุมัติวัคซีน ออกซ์ฟอร์ด-แอสตราเซนากา เพื่อใช้ฉุกเฉิน และกำลังรออนุมัติวัคซีนอีก 3 ชนิด

โควิด:

ทำไมอิสราเอลนำหน้า?

อิสราเอลเริ่มฉีดวัคซีนเมื่อวันที่ 19 ธ.ค.ปีที่แล้ว และส่งมอบวัคซีนให้ประชาชนวันละ 150,000 คน โดยให้กลุ่มแรกเป็นคนอายุเกิน 60 ปี บุคลากรสาธารณสุข และผู้มีความเปราะบางทางการแพทย์

อิสราเอลจัดหาวัคซีน ไฟเซอร์-บิออนเทค ภายหลังการเจรจาช่วงต้นของการระบาด และกำลังติดต่อผู้เข้าข่ายกลุ่มแรกที่มีสิทธิได้รับวัคซีนผ่านระบบบริการสุขภาพ (health care system) ตามกฎหมายที่คนอิสราเอลทุกคนต้องลงทะเบียนกับผู้ให้บริการสุขภาพที่ได้รับการยอมรับ

ยูลี เอเดลสไตน์ รัฐมนตรีสาธารณสุขอิสราเอล ให้สัมภาษณ์ YNet TV news ว่า อิสราเอลแบ่งการจัดส่งวัคซีนไฟเซอร์อย่างปลอดภัยซึ่งต้องเก็บรักษาที่อุณหภูมิ -70 องศาเซลเซียส ซึ่งหมายถึงสามารถส่งวัคซีนชุดเล็กไปชุมชนห่างไกลได้

นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผู้กำลังหาเสียงเพื่อการเลือกตั้งใหม่ ประเมินว่า อิสราเอลอาจเกิดโรคระบาดเร็วสุดเดือนกุมภาพันธ์ ขณะนี้อิสราเอลอยู่ในห้วงล็อกดาวน์ทั่วประเทศครั้งที่สาม

 

แล้วทำไมฝรั่งเศสตามหลัง?

ในช่วงสามวันแรกของการรณรงค์ตั้งแต่วันที่ 27 ธ.ค. ฝรั่งเศสฉีดวัคซีนให้คนน้อยกว่า 100 คน เทียบกับ เยอรมนี ที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 130,000 เข็ม (ข้อมูล 31 ธ.ค.ปีที่แล้ว) ส่วน สหภาพยุโรป (อียู) ช้ากว่าอังกฤษ และสหรัฐ ในการอนุญาตวัคซีน

องค์กรยายุโรป (European Medicines Agency) หน่วยงานกำกับดูแลของรัฐอียู 27 ประเทศ อนุมัติวัคซีนไฟเซอร์เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. เทียบกับอังกฤษที่อนุมัติเมื่อวันที่ 2 ธ.ค. และสหรัฐอเมริกาที่อนุมัติเมื่อวันที่ 11 ธ.ค.

ส่วนหนึ่งของปัญหาในฝรั่งเศสเกิดจากความกังขาอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับการฉีดวัคซีน ในการสำรวจความคิดเห็น 15 ประเทศ ที่จัดทำโดย Ipsos Global Advisor เพียง 40% ของผู้ตอบแบบสอบถามคนฝรั่งเศสกล่าวว่า ยินดีที่จะได้รับการฉีดวัคซีน ถือเป็นตัวเลขที่ต่ำ เทียบกับ จีน ที่มีมากถึง 80% อังกฤษ 77% และสหรัฐ 69%

เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐมนตรีสาธารณสุขฝรั่งเศสตอบโต้กรณีที่ประเทศฉีดวัคซีนช้าว่า ทางการเลือกฉีดวัคซีนตามบ้านพักคนชราให้ผู้สูงอายุ มากกว่าให้ผู้สูงอายุเดินทางไปรับวัคซีน

อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส กล่าวด้วยน้ำเสียงเร่งเร้าขึ้นว่า “ผมจะไม่ยอมให้ความเชื่องช้าที่ไม่ยุติธรรมเกิดขึ้นโดยไม่มีเหตุผลอันควร”

 

อินเดียกำลังทำอะไร?

อินเดียกำลังจัดโครงการฉีดวัคซีนระดับชาติ ซึ่งมีเป้าหมายที่จะเข้าถึงประชาชน 300 ล้านคน ภายในกลางปีนี้ โดยจะต้องอาศัยวัคซีนออกซ์ฟอร์ด-แอสตราเซนากา ซึ่งตอนนี้ได้รับการแนะนำจากคณะกรรมการของรัฐบาล

การฉีดวัคซีนออกซ์ฟอร์ดไม่ต้องการจัดเก็บในอุณหภูมิต่ำมากเช่นเดียวกับวัคซีนไฟเซอร์ จึงเหมาะแก่การแจกจ่ายไปพื้นที่ไร้สถานพยาบาลขนาดใหญ่

วัคซีนออกซ์ฟอร์ด-แอสตราเซนากาเป็นที่รู้จักในชื่อ โควิดชีลด์ (Covishield) ในอินเดีย ซึ่งผลิตโดย สถาบันซีรัมของอินเดีย (Serum Institute of India) ส่วนวัคซีนอีกอัน ที่พัฒนาโดย ภารัต ไบโอเทค (Bharat Biotech) กำลังรอการอนุมัติ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

สิงคโปร์ใช้วัคซีนไฟเซอร์-บิออนเทค ให้พลเมืองและผู้อาศัยระยะยาว ไม่เสียค่าใช้จ่าย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน