สองสามีภรรยาเดินทางไปตรวจสภาพบ้านเตรียมขาย เจอแมวยักษ์ทั้งฝูงนอนอาบแดดเล่นอยู่หน้าบ้าน ก่อนปิดประตูดังสะดุ้งทั้งคน ทั้งแมว
เดวิด และมาริสคา เดอเบียร์ สองสามีภรรยาได้เดินทางมาที่ ลีดวู้ด เอสเต บ้านของพ่อเขา ในแอฟริกา เพื่อตรวจสอบทรัพย์สิน และเช็คสภาพบ้าน ก่อนที่จะทำการขาย แต่พวกเขาก็ต้องตกใจเป็นอย่างมากเมื่อบ้านหลังนี้ที่ไม่มีคนอาศัยอยู่กลับมี “แมวยักษ์” เข้ามาอยู่อาศัยในพื้นที่ของพวกเขาแทนอย่างสบายใจ
เดวิด เล่าว่า “พ่อของผมสร้างบ้านในลีดวู้ด และวางแผนที่จะขายบ้านหลังนี้ ในช่วงเดือนธันวาคมจนถึงต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา ไม่มีใครอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้เลย ผมจึงเข้าไปดูเพื่อสำรวจและเช็คสภาพบ้าน เมื่อเราไปถึงเราได้สังเกตเห็นพวกมันทางหน้าต่าง พวกเราจึงเปิดประตูเข้าไปช้า ๆ และเห็นสิงโต 6 ตัว นอนเล่นอยู่บนชานบ้าน”
ในตอนแรกฝูงสิงโตเหล่านี้ก็ดูเหมือนจะไม่รู้ว่าสองสามีภรรยาได้เข้ามาภายในบ้านพวกมันยังคงนอนอาบแดดเล่นอย่างสบายใจ แต่ทันใดนั้นเสียงปิดประตูก็ดังขึ้นทำให้พวกมันทั้งหมดทุกตัวตกใจสะดุ้งหนีกันทั้งฝูง และจ้องมองเข้ามาในบ้านด้วยความงุนงงกับเสียงดังกล่าว
แต่โชคดีที่พวกมันไม่ได้แสดงท่าทีว่าจะโจมตี หรือข่มขู่สองสามีภรรยาด้วยความกลัวแต่อย่างใด ซึ่งอาจเป็นเพราะกระจกบานนั้นป้องกันการมองเห็นจากภายนอก “รอบ ๆ บ้านหลังนี้เต็มไปด้วยพุ่มไม้ จึงไม่มีรั้วกั้นระหว่างบ้าน และบ้านหลังนี้ก็อยู่ห่างไกลจากเพื่อนบ้านพอสมควร ทำให้สัตว์เหล่านี้สามารถเดินไปมาได้อย่างอิสระ” เดวิดกล่าว
หลังจากถ่ายภาพและวิดีโอเสร็จนั้น สองสามีภรรยาก็เริ่มตระหนักได้ถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้น และเริ่มถอยห่างออกจากพวกมัน เพราะไม่ใช่เรื่องยากเลยถ้าหากพวกมันตัดสินใจจะโจมตี พวกมันสามารถผ่านกระจกเหล่านั้นเขามาหาพวกเขาได้อย่างง่ายดาย “พวกมันเป็นสัตว์ป่า มีความระมัดระวังตัวสูงมาก พวกมันจะไม่โจมตีคุณ ยกเว้นว่ามันจะเห็นว่าคุณอ่อนแอ และกำลังจนมุม” เดวิดเสริม
เมื่อภาพ และคลิปวิดีโอของฝูงสิงโตได้ถูกแชร์ออกไปบนโลกออนไลน์ชาวเน็ตก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างกว้างขวาง “เราต้องการบ้านแบบนี้ นี่มันสวนสัตว์มหัศจรรย์” “สุนัขเฝ้าบ้านชั้นยอด ที่สามารถดูแลตัวเองได้แบบไม่ต้องเลี้ยง” “โอ้พระเจ้า คุณคุมสติอยู่ได้อย่างไร” “มันก็แค่แมวหาบ้าน”
ที่พักแห่งนี้ตั้งอยู่ใน ลีดวู้ด บิ้ก เกม เอสเต ในบริเวณนี้สัตว์ต่าง ๆ รวมไปถึงสิงโตสามารถท่องเที่ยวได้อย่างอิสระบนพื้นที่กว่า 13,590 เอเคอร์ เพราะในบริเวณนี้ธรรมชาติส่วนใหญ่ยังไม่ถูกทำลายมีทั้งพุ่มไม้ และต้นไม้ที่อุดมสมบูรณ์ พื้นที่แห่งนี้อยู่ระหว่างอุทยานแห่งชาติครูเกอร์ และหุบเขาไบรเด ริเวอร์ แคนยอน หุบเขาที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโลก ประเทศแอฟริกาใต้
ที่มา : dailymail