เมื่อ 17 ต.ค. บีบีซีรายงานความคืบหน้าปฏิบัติการยึดคืนเมืองโมซุล พื้นที่ยุทธศาสตร์ทางตอนเหนือ และฐานตั้งมั่นสุดท้ายของกองกำลังรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในอิรัก ว่า นายไฮเดอร์ อัล-อบาดี นายกรัฐมนตรีอิรัก แถลงเปิดฉากโจมตีกองกำลังไอเอสผ่านสถานีโทรทัศน์ และว่า ชั่วโมงแห่งชัยชนะจะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ วันนี้ผมขอประกาศเริ่มต้นปฏิบัติการที่เป็นวีรกรรมเพื่อปลดปล่อยชาวเมืองโมซุลจากไอเอส ประชาชนชาวอิรักไม่ว่าศาสนาใดจะได้อยู่ด้วยกันอย่างสงบสุข หากร่วมมือกันก็จะสามารถเอาชนะไอเอส และเราจะช่วยฟื้นฟูเมืองโมซุลให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
เจ้าหน้าที่ทหาร หน่วยต่อต้านการก่อการร้าย และกองกำลังนักรบชาวเคิร์ด เปชเมอร์กา รวมกว่า 25,000 คน เข้าร่วมสมรภูมิขับไล่ไอเอสซึ่งคาดว่ามีนักรบราว 4,000-8,000 คนซ่องสุมอยู่ในเมืองโมซุล โดยฝ่ายกองทัพรัฐบาลอิรักใช้กลยุทธ์ตีวงล้อมจำกัดการเคลื่อนไหวของไอเอส ตั้งแต่เดือนส.ค.ที่ผ่านมา กองกำลังสนับสนุนอิรักสามารถยึดฐานทัพอากาศในเมืองเคย์ยาราห์ ห่างจากเมืองโมซุลไปทางใต้ราว 60 ก.ม. ซึ่งถือจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่จะใช้บัญชาการปราบปรามไอเอส ด้านแกนนำกองกำลังเปชเมอร์กากล่าวว่า ถ้าวันนี้ได้สังหารนักรบไอเอส ตนก็นอนตายตาหลับแล้ว เพราะถือว่าได้ทำเพื่อชาวเคิร์ดและชาวอิรักแล้ว
ขณะที่พลโทสตีเฟ่น ทาวน์เซนด์ ผู้บัญชาการกองทัพนานาชาติปราบปรามกองกำลังไอเอสในอิรัก กล่าวว่าปฏิบัติการยึดคืนเมืองโมซุลอาจใช้เวลาหลายสัปดาห์ หรือนานกว่านั้น แม้จะเป็นสมรภูมิท้าทายที่สุดทรหด และยืดเยื้อ ตนมั่นใจว่าอิรักพร้อมที่จะรบ สหรัฐและพันธมิตรกว่า 60 ประเทศก็พร้อมจะเคียงข้างอิรักในสงครามครั้งประวัติศาสตร์ ทั้งนี้ กองทัพสหรัฐและฝรั่งเศสจะนำภารกิจโจมตีทางอากาศ ส่วนเจ้าหน้าที่ทหารผู้เชี่ยวชาญพิเศษของกองทัพสหรัฐ ฝรั่งเศส และอังกฤษ ร่วมลงพื้นที่รบกับกองทัพแนวหน้าของอิรัก เพื่อให้คำปรึกษาในการโจมตีกองกำลังไอเอส
