อินเดียเร่งช่วยคนงาน37ชีวิต – วันที่ 8 ก.พ. เอพี และ บีบีซี รายงานความคืบหน้าชิ้นส่วนธารน้ำแข็งที่แตกหักจากเทือกเขาหิมาลัย ตกลงไปในแม่น้ำ และชนเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำ จนน้ำท่วมใหญ่ไหลผ่านหุบเขาในรัฐอุตตราขัณฑ์ ทางเหนือของอินเดีย เมื่อวันที่ 7 ก.พ. ว่า ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 18 ราย และอีก 165 คน ยังสูญหาย
ส่วนใหญ่เชื่อว่าเป็นคนงานจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำ 2 แห่ง ในบริเวณดังกล่าว ขณะที่ทหารและเจ้าหน้าที่กึ่งทหารหลายร้อยนาย และเฮลิคอปเตอร์ทหาร ถูกส่งไปที่เกิดเหตุเพื่อเสริมภารกิจการค้นหาผู้สูญหาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ระบุว่าจนถึงตอนนี้พบแล้ว 25 คน
นอกจากนี้ บรรดาผู้นำจากทั่วโลกยังส่งสารแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้สูญเสีย เช่น อังกฤษ โดย นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ทวีตข้อความว่า อังกฤษยืนหยัดในความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับอินเดียและพร้อมให้การสนับสนุนที่จำเป็น
ตำรวจรัฐอุตตราขัณฑ์ระบุว่า ชิ้นส่วนธารน้ำแข็งถล่มเมื่อราว 11.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น สร้างความเสียหายแก่เขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำในชื่อของ โครงการพลังน้ำฤๅษีคงคา
นอกจากนี้ ทำให้น้ำทะลักผ่าน แม่น้ำเธาลีคงคา สาขาใหญ่ของแม่น้ำคงคา จนโครงการไฟฟ้าพลังน้ำที่อยู่ปลายน้ำในบริเวณตาโปวัน (เหนือธารน้ำแข็ง กังโกตรี หนึ่งในแหล่งสำคัญของแม่น้ำคงคา) เสียหายไปด้วย และสะพานเส้นหนึ่งในบริเวณตาโปวันที่เชื่อม 13 หมู่บ้าน ถูกพัดขาด
เจ้าหน้าที่บอกว่า ภารกิจหลักตอนนี้อยู่ที่ 37 คนงาน (ไม่รวมผู้สูญหาย 165 คน) ที่ติดค้างในอุโมงค์โรงไฟฟ้าพลังน้ำหนึ่งในสองแห่งที่มีความยาว 2.5 กิโลเมตร ซึ่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยไปถึงปากทางแล้ว อยู่ระหว่างการใช้เครื่องมือหนักเคลียร์พื้นที่
ขณะที่ผู้อำนวยการใหญ่กองกำลังรับมือภัยพิบัติแห่งชาติบอกสำนักข่าวเอเอ็นไอว่า ปฏิบัติการกู้ภัยใช้เวลา 24-48 ชั่วโมง
ด้านผู้เชี่ยวชาญกำลังตรวจสอบเหตุการณ์นี้ แม้จะยังไม่ชัดเจนว่าอะไรอาจทำให้ชิ้นส่วนธารน้ำแข็งแตกหัก ทว่ากลุ่มสิ่งแวดล้อมเรียกร้องทบทวนการก่อสร้างโครงการไฟฟ้าในภูเขาที่มีความอ่อนไหวต่อระบบนิเวศ
เอ็ม.พี.เอส. บิชต์ ผู้อำนวยการศูนย์การประยุกต์ใช้อวกาศ รัฐอุตตราขัณฑ์ กล่าวกับเอเอฟพีว่า ชิ้นส่วนธารน้ำแข็งถล่มเป็นปรากฏการณ์ทั่วไปในพื้นที่รับน้ำ และดินถล่มขนาดใหญ่เกิดขึ้นบ่อยครั้งด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: