4สหายปชต. สหรัฐ-อินเดีย-ออสซี่-ญี่ปุ่น ผนึกทีมชนทหารพม่า – ทุ่มวัคซีนเอาใจอาเซียน
4สหายปชต. – วันที่ 13 มี.ค. เอพี รายงานว่า รัฐบาลสหรัฐอเมริกา ผนึกทีมกับชาติประชาธิปไตยในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ได้แก่ อินเดีย ออสเตรเลีย และญี่ปุ่น ในนามกลุ่ม “สี่สหาย” หรือ QUAD (ควอด) ซึ่งเชื่อว่าเพื่อคานอำนาจจีนในทวีปเอเชีย ประเดิมจัดประชุมและออกแถลงการณ์ร่วมมือกันฟื้นฟูประชาธิปไตยในเมียนมา ขณะเดียวกันยังตั้งแผนผลิตวัคซีนป้องกันโควิด-19 มาให้กลุ่มประเทศอาเซียน
“ผู้นำทั้งหมดต่างรู้สึกว่าเป็นผู้รับรองประชาธิปไตยของแต่ละสมาชิก 4 ชาติ และเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องทำงานเพื่อฟื้นฟูประชาธิปไตยในพม่า สำหรับนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมที ให้คุณค่าอย่างยิ่งต่อประชาธิปไตย สันติภาพ และเสถียรภาพในประเทศเพื่อนบ้านอย่างเมียนมา” นายหฤศ วรธาน ศรีคลา รมว.การต่างประเทศอินเดีย กล่าว
การประชุมกลุ่มประเทศสี่สหาย ยังบรรลุข้อตกลงส่งวัคซีน 1 พันล้านโดสให้ประเทศในภูมิภาคอาเซียน คาดว่าเป็นวัคซีนของบริษัทจอห์นสันแอนด์จอห์นสันที่ฉีดเพียงโดสเดียว ผลิตในอินเดีย และตั้งเป้าส่งวัคซีนได้หมดภายในปีค.ศ.2022 หรือปี 2565
นายเจก ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐกล่าวหลังเสร็จสิ้นการประชุมทางออนไลน์เมื่อวันที่ 12 มี.ค.ว่า ด้วยการผลิตจากอินเดีย เทคโนโลยีของสหรัฐ เงินทุนจากญี่ปุ่นและสหรัฐ และการขนส่งของออสเตรเลีย
Advertisement
กลุ่มสี่สหายมุ่งมั่นที่จะส่งวัคซีนจำนวน 1 พันล้านโดส โดยจะส่งไปยังอาเซียนที่มีประชากรกว่า 500 ล้านคนที่รวมถึง ไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ตลอดจนชาติในภูมิภาคแปซิฟิกและอื่นๆ
ด้านนายนเรนทรา โมที นายกรัฐมนตรีอินเดียระบุว่า ศักยภาพในการผลิตวัคซีนของอินเดียจะขยายขึ้นด้วยการสนับสนุนจากญี่ปุ่น สหรัฐและออสเตรเลีย บริษัทไบโอโลจิคัลของอินเดียจะผลิตวัคซีนจอห์นสันแอนด์จอห์นสันเพิ่มหลังเพิ่งได้รับอนุญาตจากองค์การอนามัยโลก
ช่วงเวลาเดียวกัน สหรัฐยังประกาศอนุญาตให้คุ้มครองทางมนุษยธรรมแก่ชาวเมียนมาในสหรัฐโดยยังไม่ต้องกลับประเทศ เช่นเดียวกับชาวเวเนซุเอลาที่หนีภัยรัฐบาลเผด็จการมาอยู่สหรัฐ 3 แสนคน หลังสถานการณ์ในเมียนมาเต็มไปด้วยความรุนแรง เจ้าหน้าที่ความมั่นคงใช้กำลังและอาวุธปราบปรามประชาชน
นายอเลฮันโดร มาเยอร์กาส รมว.ความมั่นคงแห่งมาตุภูมิกล่าวว่า กำหนดให้ชาวเมียนมาได้รับสถานะการคุ้มครองทางมนุษยธรรมเป็นระยะเวลา 18 เดือน เนื่องจากชาวเมียนมากำลังทนทุกข์กับวิกฤตด้านมนุษยธรรมที่เลวร้ายลงและซับซ้อนในพื้นที่หลายส่วนของประเทศ
สภาพการณ์ในเมียนมาดังกล่าวทำให้บุคคลที่มีสัญชาติเมียนมาและผู้มีถิ่นพำนักในเมียนมาไม่สามารถกลับไปประเทศได้อย่างปลอดภัย โดยที่บุคคลต้องพิสูจน์การอยู่อาศัยอย่างต่อเนื่องในสหรัฐตั้งแต่ 11 มี.ค. จะได้รับสิทธิในการคุ้มครองและสมัครทำงานได้อย่างถูกกฎหมายในสหรัฐ
สำหรับสถานการณ์ในเมียนมายังไม่ดีขึ้น หลังมีผู้เสียชีวิตจากการปราบปรามเกิน 70 รายแล้ว เฉพาะเมื่อวันเสาร์ที่ 13 มี.ค. เสียชีวิตอีกอย่างน้อย 12 ราย ในจำนวนนี้ 5 ราย เป็นเหยื่อในนครย่างกุ้ง อีก 5 รายถูกสาดกระสุนใส่ที่นครมัณฑะเลย์ และอีกรายถูกยิงที่เมืองแปร
++++++
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ทัพพม่าไม่สนยูเอ็นประณาม-รัวยิงม็อบ กล่าวหาซูจีซุกทอง-เงินล้าน