เปิดใจตำรวจพม่า กลุ่มที่ไม่ฆ่าประชาชน หนีข้ามพรมแดนแล้ว400นาย
มีตำรวจชาวเมียนมาหลายนายไม่อาจทำตามคำสั่งจากกองทัพให้ยิงประชาชน แม้ยังมีเจ้าหน้าที่ความมั่งคงเดินหน้าปราบปรามผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐประหารอย่างแข็งกร้าว ตามคำสั่งกองทัพ
สำนักข่าว รอยเตอร์ รายงานว่า มีตำรวจและเจ้าหน้าที่หน่วยดับเพลิงกว่า 400 นายแล้วที่หนีข้ามพรมแดนเมียนมาเข้าไปในอินเดีย ตั้งแต่ปลายเดือนก.พ. ตัวเลขนี้ได้จากเจ้าหน้าที่ฝั่งอินเดีย
“เฉพาะเมื่อวันศุกร์ (12 มี.ค.) มีข้ามมาแล้ว 116 คน มีทั้งตำรวจ เจ้าหน้าที่ดับเพลิง บางคนมีแค่ถุงพลาสติกใส่เสื้อผ้าข้ามพรมแดนมา” เจ้าหน้าที่ตำรวจอินเดีย รัฐมิโซรัม กล่าว
นับจากกองทัพยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือนเมื่อวันที่ 1 ก.พ. มีผู้เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 150 รายและมีผู้บาดเจ็บหลายร้อยคน จากการสลายการชุมนุมที่ตำรวจใช้ทั้งกระสุนจริงและกระสุนยาง แก๊สน้ำตา กระบอง และแม้แต่หนังสติ๊ก
รัฐบาลกลางอินเดียมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นพยายามสกัดคลื่นผู้อพยพตามแนวชายแดน 400 กิโลเมตร แต่ภูมิประเทศที่เป็นเทือกเขา อีกทั้งความผูกพันด้านเชื้อสายและวัฒนธรรมของคนสองฝั่งแดนที่สนิทชิดเชื้อกัน ทำให้เป็นเรื่องยากที่จะกั้นผู้หนีร้อนมาพึ่งเย็น
ด้านซอว์ ทุน วิน รองผบ.ตร.เขตฟาลัมส่งหนังสือถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงเมืองจัมไพ รัฐมิโซรัม ขอให้ละเว้นส่งตัวตำรวจ 8 นายกลับเมียนมาเพื่อเห็นแก่ความสัมพันธ์ฉันท์มิตรระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน
มุขมนตรีมิโซรัมกล่าวว่า เจ้าหน้าที่มอบอาหารและจัดหาที่พักชั่วคราวให้ผู้ที่อพยพมาจากเมียนมา แต่การตัดสินใจว่าจะส่งกลับหรือไม่ขึ้นอยู่กับรัฐบาลกลาง
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจมิโซรัมเขียนเอกสารระบุข้อมูลส่วนตัวของผู้หลบหนีเข้าประเทศโดยระบุสาเหตุว่าผู้หลบหนีเข้าเมืองให้การว่าถูกสั่งให้ยิงประชาชนผู้ประท้วง แต่ไม่อาจปฏิบัติตามคำสั่งให้ยิงผู้ประท้วงซึ่งไม่ได้ทำความผิดอะไร
นายตำรวจพม่าคนหนึ่ง อายุ 26 ปี ให้สัมภาษณ์ สกายนิวส์ว่า หลังจากหนีมาได้ ก็ห่วงสวัสดิภาพของลูกเมียที่ยังอยู่ในหมู่บ้าน เพราะทหารพม่าออกข่าวทางโซเชียลมีเดีย ว่าจะจับกุมญาติและครอบครัวของตำรวจที่หนีทัพ
ด้าน ซีเอ็นเอ็น รายงานคำให้สัมภาษณ์ เปิดใจตำรวจพม่า อีกนายชื่อ ธะ เปง อายุ 27 ปี ถูกบีบให้ลาออกหลังจากเป็นตำรวจมา 9 ปี เพราะผู้บังคับบัญชาสั่งให้ใช้ปืนกลมือยิงใส่ประชาชน
ตำรวจชั้นผู้น้อยจำใจจากบ้านและครอบครัว ก่อนออกเดินทางเป็นเวลา 3 วัน โดยอาศัยความมืดออกเดินทางเพื่อหนีการตรวจจับ จนกระทั่งข้ามแดนมายังรัฐมิโซรัมของอินเดียพร้อมกับเพื่อนร่วมงานอีก 6 นาย
ธะ เปงและเพื่อนถือเป็นกลุ่มแรกๆ ที่หลบหนีออกจากเมียนมาเพราะไม่ยอมทำตามคำสั่งกองทัพและตอนที่ธะเปงหนีมาก็มีชาวเมียนมาหลบหนีเข้าอินเดียแล้วประมาณร้อยคน ส่วนใหญ่เป็นตำรวจและคนในครอบครัว
ธะ เปง กล่าวว่ากฎของตำรวจอนุญาตให้ยิงผู้ชุมนุมได้โดยใช้กระสุนยางหรือยิงต่ำกว่าหัวเข่า แต่ตนได้รับคำสั่ง ให้ยิงจนกว่าผู้ประท้วงจะเสียชีวิต พร้อมทั้งกล่าวด้วยว่าในสถานีตำรวจ ตำรวจร้อยละ 90 สนับสนุนผู้ประท้วง แต่ไม่มีแกนนำตั้งกลุ่มตำรวจให้เป็นหนึ่งเดียว
แม้คิดถึงครอบครัว แต่ธะ เปง กลัวที่จะต้องกลับเมียมามากกว่าจึงไม่อยากกลับไป
ส่วน งุน ฮไล ตำรวจเมืองมัณฑะเลย์ อายุ 23 ปี กล่าวว่ากองทัพกดดันตำรวจซึ่งส่วนใหญ่เป็นพลตำรวจให้เผชิญหน้ากับผู้ชุมนุม ตนไม่ทำตามจึงถูกตำหนิและถูกย้าย
จากนั้น ได้รับความช่วยเหลือจากผู้เคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยทางออนไลน์ชี้เส้นทางหลบหนีไปยังรัฐมิโซรัม
ขณะที่ “ดัล” ตำรวจหญิงอายุ 24 ปี ส่วนใหญ่มีหน้าที่ด้านธุรการในเมืองฟาลัมทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมียนมา กล่าวว่าต้องทำรายชื่อประชาชนที่ถูกจับกุม แต่เมื่อการประท้วงเริ่มรุนแรงขึ้น ตนถูกสั่งให้จับผู้ประท้วงที่เป็นผู้หญิง แต่ตนปฏิเสธและตัดสินใจหนีออกจากเมียนมา
/////////////
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
เมียนมาวุ่นหนีเขตอัยการศึก จีนแจ้งอพยพคนด้วย – ยอดผู้เสียชีวิตแตะ150