เผยเหตุทหารพม่าโหดร้ายกับประชาชน – ซีเอ็นเอ็น รายงานสัมภาษณ์เปิดใจชาวพม่าที่ต่อสู้เรียกร้องขอคืนประชาธิปไตย นับตั้งแต่กองทัพรัฐประหาร ยึดอำนาจรัฐบาลพลเรือน วันที่ 1 ก.พ. จากนั้นปราบปรามประชาชนที่ออกมาชุมนุม
คนแรกเป็น หนุ่มเมียนมาอายุ 19 ปี รอดชีวิตมาได้ในสภาพมีบาดแผลเต็มตัวและใบหน้าบวมปูด กล่าวกับนักข่าวซีเอ็นเอ็นว่าถูกทหารเมียนมาจับตัวไปเมื่อวันที่ 9 เม.ย.
หลังจากร่วมประท้วงในนครย่างกุ้ง ตนเดินทางกลับเมืองพะโค ระหว่างทางมีด่านตรวจกั้นถนน ทหารค้นสัมภาระและเปิดดูรูปในโทรศัพท์มือถือพบภาพที่ตนไปร่วมประท้วงจึงถูกจับตัวไปสถานที่ลับแห่งหนึ่ง
ผู้บังคับบัญชามัดมือตนไพล่หลังและใช้กรรไกรเล็กตัดที่ใบหู ปลายจมูก คอและลำคอ ใช้ขวดแก้วทุบศีรษะ เฆี่ยนตี รวมทั้ง ใช้ปืนขู่และยัดเยียดข้อหาว่าตนให้เงินสนับสนุนกลุ่มอารยะขัดขืนต่อต้านกองทัพที่ยึดอำนาจมาจากรัฐบาลพลเรือน
ซ้อมทารุณทั้งคืน
ก่อนส่งต่อให้ทหารชั้นผู้น้อยซ้อมต่อทั้งคืน ทหารสั่งให้ตนนั่งคุกเข่าแล้วถีบจนล้มลงกับพื้นและใช้สายเคเบิลบิดพันกัน 2 เส้นฟาดไปที่หลังซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตนเจ็บปวดปางตายและบอกทหารว่าให้ฆ่าให้ตายดีกว่าทรมานกันแบบนี้
ตนคิดว่าคงจะตายแน่ แต่อีกใจหนึ่งบอกกับตัวเองว่าจะต้องเข้มแข็งและกินอาหารเพื่อประคองชีวิตให้รอด เมื่อพ้นจากขุมนรกนี้ไปได้ก็จะไปร่วมการประท้วงอีก
หนุ่มคนนี้เป็นหนึ่งในพลเรือนกว่า 4,400 คนที่ถูกทหารจับกุมตัวไปตั้งแต่กองทัพยึดอำนาจเมื่อวันที่ 1 ก.พ.
สมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมือง หรือ เอเอพีพี ระบุว่าทหารใช้กำลังและอาวุธสลายกลุ่มผู้ประท้วงและจับกุมประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับกองทัพ ไม่ว่านักการเมือง นักข่าว แรงงาน ผู้มีชื่อเสียง แม้แต่คนที่เดินผ่านไปมาและเด็กๆ
เอเอพีพีประเมินว่าอาจมีผู้เสียชีวิตกว่า 750 คน ซึ่งมีเด็กและคนหนุ่มสาวจำนวนมาก ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นจากผู้ประท้วงที่ถูกทหารจับตัวไปทรมาน
กลยุทธ์สร้างความหวาดกลัว
ซอว์ วิน นักสิทธิมนุษยชนจากฟอร์ติฟาย ไรตส์ กล่าวว่าผู้ที่ถูกทหารจับตัวไปจะถูกทรมานหรือปฏิบัติด้วยความโหดร้าย
แม้ทหารใช้กลยุทธ์สร้างบรรยากาศความหวาดกลัวให้เกิดขึ้นในสังคม แต่ผู้ประท้วงก็ยังออกไปเรียกร้องตามท้องถนนให้ทหารเลิกปกครองประเทศ
เทคนิคสร้างความหวาดกลัวมีหลายรูปแบบ ทุกๆ คืน หลัง 20.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ผู้ประกาศข่าวจะอ่านรายชื่อผู้ที่กองทัพต้องการจับกุมตัวผ่านทางโทรทัศน์ รวมทั้ง นักแสดง นักดนตรี นักข่าวและแพทย์ที่ร่วมการประท้วง
เมื่อวันที่ 18 เม.ย. กองทัพเผยภาพบุคคล 6 คนที่ถูกจับโดยอ้างว่าคนเหล่านี้ประกอบระเบิดและก่อเหตุระเบิดขึ้นหลายครั้งในแถบชานนครย่างกุ้งเมื่อวันที่ 17 เม.ย.
ภาพผู้ชาย 4 คนและผู้หญิง 2 คนที่ปรากฏผ่านทางจอโทรทัศน์มีบาดแผลฉกรรจ์จากการถูกซ้อมอย่างหนัก
หนึ่งในนั้นเป็นครูสอนนาฏศิลป์ อายุ 31 ปี นางสาวขิ่น นาย ธู ใบหน้าปูดบวมและโชกเลือด
แม่ของขิ่น นาย ธู กล่าวว่าลูกสาวถูกทหารจับไปตอนกลางคืน ตนตามลูกสาวไปที่สถานีตำรวจเห็นลูกสาวเดินกระย่องกระแย่ง ใบหน้าบวมมากเพราะถูกทุบตีที่ใบหน้า ปากแตก ตาปิด ฟันหลุดไป 1 ซี่ โดยเจ้าหน้าที่ไม่ได้ตั้งข้อหาหรือนำตัวฝากขัง แต่นำตัวครูสาวไปค่ายสอบปากคำแทน
หัวใจของคนเป็นแม่ร้อนรน อยากจะพบหน้าลูกและพาไปหาหมอให้เร็วที่สุด แต่ทำได้เพียงแค่หวังและรอคอย
เผยเหตุทหารพม่าโหดร้ายกับประชาชน
ด้านอดีตนักเรียนทหารอายุ 23 ปี ผู้แปรพักตร์หลบหนีไปอยู่อินเดีย เปิดใจว่าเพราะไม่อยากสังหารคนชาติเดียวกันอีกต่อไป
ทหารหนุ่มกล่าวว่าเมื่อเข้ากองทัพ ทหารใหม่จะถูกล้างสมองว่าทหารทำให้ประเทศชาติมีสันติสุข ส่วนชนกลุ่มน้อยติดอาวุธเป็นพวกลักลอบค้ายาเสพติดและค้ามนุษย์ กองทัพจึงต้องประหัตประหาร
ทหารถูกปิดหูปิดตาจากข่าวสารภายนอกเพราะต้องอยู่ในค่ายโดยไม่ได้รับอนุญาตให้ออกนอกค่ายและดูโทรทัศน์ของสถานีกองทัพได้เพียงช่องเดียว
หลังจากจบหลักสูตรการฝึกททหารใหม่ ตนถูกส่งไปประจำการที่เมืองมินกาลาดอนและถูกสั่งให้กวาดล้างผู้ประท้วงที่ต้องสงสัยทุกคืน โดยออกจากค่ายพร้อมกระสุน 2 แผง ปืนไรเฟิลจู่โจม แผนที่บ้านเป้าหมายและรายชื่อผู้นำการประท้วง
อดีตนักเรียนทหารกล่าวว่าได้รับคำสั่งให้ยิงทุกคนที่ต้องการจับกุมตัว แต่หลบหนีออกจากบ้าน ชาวบ้านหวาดกลัวทหารมากต่างกรีดร้องและร้องไห้ ถ้าคนไหนหันมาพูดกับทหารก็จะถูกพานท้ายปืนทุบ ตนรู้สึกเศร้าใจทุกคนที่ต้องเห็นชาวบ้านถูกเฆี่ยนตี ไม่เว้นแม้กระทั่งเด็ก
ผู้ประท้วงที่ถูกทุบตีจะไม่ได้รับการรักษาเยียวยาในสถานที่คุมขัง บางคนเสียชีวิตจากบาดแผลเพราะเลือดออกมาก จากนั้น ทหารก็จะส่งศพกลับไปที่บ้านของครอบครัวผู้เสียชีวิต
ทหารหนุ่มเปิดใจว่าไม่อยากทำตามคำสั่งจึงตัดสินใจทุบปืนไรเฟิลจนใช้การไม่ได้ แต่หลีกเลี่ยงการทุบตีชาวบ้านไม่ได้และพูดอะไรไม่ได้เนื่องจากวัฒนธรรมกองทัพสร้างความกลัวให้กับทหารชั้นผู้น้อย
ในที่สุด ทหารหนุ่มตัดสินใจหลบหนีและเดินทางไกลจากนครย่างกุ้งไปชายแดนอินเดียเพราะไม่อยากเห็นความโหดร้ายที่ทหารกระทำทารุณผู้ประท้วงอีกต่อไป
////////////
อ่านข่าว :
เปิดใจตำรวจพม่า กลุ่มที่ไม่ฆ่าประชาชน หนีข้ามพรมแดนแล้ว400นาย