สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประณามรัฐประหารเมียนมาซ้ำอีก พร้อม ขอให้ชาวเมียนมามีความหวัง ไม่สูญสิ้นศรัทธา แม้ต้องต่อสู้กับอำนาจที่เหนือกว่า
เมื่อวันที่ 16 พ.ค.64 สำนักข่าว รอยเตอร์ รายงานว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ได้กล่าวถึงกรณีสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศเมียนมา ขณะร่วมพิธีมิสซาพิเศษแก่ชุมชนเมียนมา มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ ในประเทศอิตาลี
“ประชาชนเมียนมาต้องไม่สิ้นหวังเมื่อเผชิญกับความชั่วร้ายหรือยอมให้ตัวเองถูกแบ่งแยก” สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ ในพิธีมิสซาพิเศษแก่ชุมชนเมียนมา ในอิตาลี
กองทัพเมียนมาทำการรัฐประหารรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 64 โดยกล่าวหาว่ารัฐบาลพลเรือนมีการฉ้อโกงการเลือกตั้ง ทำให้ประชาธิปไตยในประเทศเมียนมา ถดถอยตกต่ำลงอย่างมาก และจุดชนวนให้เกิดการประท้วงไปทั่วประเทศ และมีการปราบปรามอย่างรุนแรง จนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต รวมถึงผู้ถูกคุมขัง จำนวนมาก
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส เป็นหนึ่งในผู้นำทางศาสนาระดับโลกที่แสดงความเห็นอย่างเปิดเผยมากที่สุด เกี่ยวกับวิกฤตทางการเมืองของเมียนมา ก่อนหน้านี้ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส เคยเดินทางมาเยือนประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในปี พ.ศ.2560 ทั้งนี้ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประณามการรัฐประหารในเมียนมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าตั้งแต่เกิดเหตุการณ์รัฐประหารขึ้น
“ประเทศเมียนมาอันเป็นที่รักของคุณ กำลังประสบกับความรุนแรง ความขัดแย้ง และการปราบปราม” สมเด็จพระสันตะปาปา ตรัสด้วยถ้อยคำที่หนักแน่น และขอให้ชาวเมียนมานึกถึงชั่วโมงสุดท้ายของพระเยซูคริสต์ก่อนการตรึงกางเขนของพระองค์ เพื่อช่วยให้ชาวเมียนมามีพลังและแรงบันดาลใจในการยืนหยัดในความเชื่อของตนเอง
“พระเยูซูคริสต์ไม่ละทิ้งตนเองไปสู่ความชั่วร้าย เขาไม่ปล่อยให้ตนเองจมอยู่กับความเศร้าโศก เขาไม่ถอยเข้าไปในความขมขื่นของผู้พ่ายแพ้และผิดหวัง”
“ผู้คนไม่ควรสูญเสียศรัทธาหรือความหวังของตน แม้ต้องอยู่ในคืนที่มืดมิดแห่งความเศร้าโศก และแม้ว่าความชั่วร้ายดูเหมือนจะมีอำนาจเหนือกว่าก็ตาม”
“ชาวเมียนมาจะไม่ยอมจำนนต่อตรรกะแห่งความเกลียดชังและการแก้แค้น ไม่ยอมลดคุณค่าของพวกเขา ความสามัคคีเป็นอันหนึ่งอันเดียวนั้นมีความสำคัญยิ่ง” สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส กล่าว
นับตั้งแต่มีการรัฐประหาร ประชาชนเมียนมาจำนวนมาก ได้จัดการประท้วง การนัดหยุดงาน และการรณรงค์อารยะขัดขืน ทำให้ธุรกิจและระบบราชการเป็นอัมพาต ในขณะที่การต่อต้านรัฐประหารด้วยอาวุธได้ถูกระงับ ในทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ
ทั้งนี้ แม้ว่าเมียนมาเป็นประเทศที่นับถือศาสนาพุทธเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็มีชาวเมียนมาที่นับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกราว 800,000 คน