ฮึ่มทางการเมินช่วย “ขุนศึกโคโรนา” ทั้งที่อุทิศชีวิตเผาศพผู้ติดเชื้อกว่า 1,300 ราย
ฮึ่มทางการเมินช่วย – วันที่ 5 มิ.ย. เดลีเมล์ รายงานข่าวความสูญเสียในเมืองนาคปุระ รัฐมหาราษฏระ ทางตะวันตกของอินเดีย หลังจาก นายจันฑนา นิมเช อายุ 67 ปี เจ้าหน้าที่รัฐเกษียณอายุ ผู้ได้รับฉายาว่า “ขุนศึกโคโรนา” จากการอุทิศตัวช่วยฌาปนกิจศพผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 ก่อนเคราะห์ร้ายติดไวรัสมรณะและเพราะโรงพยาบาลไม่มีเตียงเพียงพอสำหรับผู้ป่วย นายนิมเชเลยไม่ได้เข้ารับการรักษาและเสียชีวิตลงในที่สุด
ท่ามกลางกระแสแสดงความไม่พอใจต่อการทำงานของทางการซึ่งล่าช้า และไม่มีประสิทธิภาพ โดยรัฐมหาราษฏระยังรั้งอันดับ 1 รัฐที่มีผู้ป่วยสะสมสูงที่สุดในอินเดีย กว่า 5.79 ล้านคน และเสียชีวิตแล้ว 97,394 ราย
ขณะที่สถานการณ์ทั่วประเทศมีผู้ป่วยเพิ่มอีก 121,476 คนเมื่อวันที่ 4 มิ.ย. ส่งผลให้ยอดรวมเพิ่มเป็นกว่า 28.69 ล้านคน และเสียชีวิตอย่างน้อย 344,101 ราย
รายงานระบุว่านายนิมเชเข้าร่วมองค์กรคิงคอบร้ายูธฟอร์ซ (เคซีวายเอฟ) เพื่อช่วยเหลือเหยื่อจากโรคโควิด-19 ซึ่งจัดตั้งขึ้นเมื่อเดือนมี.ค.2563 และเป็นเวลาเกือบ 1 ปีที่นายนิมเชทำพิธีฌาปนกิจเผาศพผู้ป่วยโควิดที่เสียชีวิตราว 1,300 ศพ จนได้รับการยกย่องจากสังคม เช่นเดียวกับนายกเทศมนตรีเมืองนาคปุระที่แถลงชื่นชมนายนิมเชต่อการเสี่ยงชีวิตช่วยเหลือครอบครัวผู้ติดเชื้อ
นายอาร์วินด์ รัตอุดี ผู้ร่วมงานใกล้ชิดกับนายนิมเชที่องค์กรเคซีวายเอฟ ระบุเชื่อว่านายนิมเชได้รับเชื้อโควิด-19 ระหว่างเดินทางไปฉีดวัคซีนเข็มแรก และไม่นานเริ่มมีไข้เล็กน้อย
จากนั้นภรรยาและลูกชาย 2 คนของนายนิมเช รวมทั้งน้องสาวต่างแสดงอาการของโรคโควิด-19 และผลตรวจหาเชื้อของทั้งห้าคนก็ปรากฏเป็นบวก ต่อมานานยนิมเชมีอาการหนักขึ้นครอบครัวเลยเร่งหาโรงพยาบาล แต่กลับไม่มีที่ไหนว่าง
“เราติดต่อไปหาทุกคน ไม่ใช่แค่ความช่วยเหลือทางการเงินเท่านั้น แต่เราต้องการเตียงและยา แต่ไม่มีใครตอบรับเราเลย เราติดต่อผู้ตรวจการณ์เมืองนาคปุระ (เอ็นเอ็มซี) และเจ้าหน้าที่ระดับสูง แต่ก็เหมือนเดิม ไม่มีใครช่วยชายคนนี้ที่ออกไปข้างนอกและให้เกียรติผู้เสียชีวิตด้วยการฌาปนกิจศพมากกว่า 1,300 ศพ” นายรัตอุดีกล่าว
และว่าครอบครัวต้องใช้เงินเก็บทั้งหมดเพื่อพาตัวนายนิมเชเข้ารักษาที่โรงพยาบาลเอกชน แต่แพทย์ไม่สามารถรักษาได้ และนายนิมเชเสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านม นายรัตอุดีย้ำว่าจะยื่นเรื่องดำเนินการกับมุขมนตรีและผู้ตรวจการณ์ต่อการละเลยหน้าที่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: