คุกนรกอินเส่งซีเอ็นเอ็น รายงานชะตากรรมนักข่าวอเมริกันที่ถูกจับกุมในเมียนมา หลายคนอยู่ในคุกอินเส่ง เรือนจำสำคัญที่เผด็จการพม่าใช้กักขังผู้เรียกร้องประชาธิปไตยมาหลายยุคสมัย

นักช่าวอเมริกันคนแรกคือ แดนนี เฟนสเตอร์ อายุ 37 ปี ถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงเมียนมาจับกุมที่สนามบินนานาชาติย่างกุ้งเมื่อวันที่ 24 .. ก่อนที่จะขึ้นเครื่องบินกลับบ้านเกิดที่สหรัฐ

คุกนรกอินเส่ง

แดนนี เฟนสเตอร์

นักข่าวชาวเมืองดีทรอยต์ รัฐมิชิแกน ทำงานเป็นบรรณาธิการบริหารสื่ออิสระในเมียนมา ชื่อว่า Frontier Myanmar หรือแนวหน้าเมียนมานำเสนอข่าวการกองทัพรัฐประหารและการใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุมของประชาชน รวมทั้ง การประท้วงของผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับกองทัพ

 

หลังจากเมียนมาอยู่ใต้ท็อปบู๊ต สื่อมวลชนทำงานยากลำบาก ท่ามกลางการคุกคามสื่อของกองทัพ เฟนสเตอร์จึงตัดสินใจเดินทางกลับบ้าน แต่ยังไม่ทันขึ้นเครื่องบินก็ถูกจับกุมเสียก่อนโดยไม่ทราบข้อหาและติดต่อครอบครัว ทนายความหรือเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ในย่างกุ้งไม่ได้

บัดดี เฟนสเตอร์ ผู้เป็นพ่อให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ็นว่าลูกชายเคยแสดงความกังวลกับการทำงานสื่อในเมียนมาก่อนถูกจับและบอกกับตนว่านักข่าวทั้งหมดต้องออกจากเมียนมาและลูกชายคิดว่าคงถึงเวลาที่จะต้องเดินทางกลับบ้านแล้วเช่นกัน

พ่อแม่ของ แดนนี เฟนสเตอร์

แต่หลังจากเฟนสเตอร์ถูกจับนานกว่า 2 สัปดาห์จนถึงขณะนี้ ครอบครัวยังไม่ทราบว่าลูกชายอยู่ที่ไหนหรือมีสภาพอย่างไร ครอบครัวจึงร้องเรียนรัฐบาลสหรัฐฯและกระทรวงการต่างประเทศเพื่อกดดันให้เร่งนำตัวลูกชายกลับสหรัฐ

ส่วนฟรอนเทียร์ เมียนมาคาดว่าเฟนสเตอร์คงถูกขังในเรือนจำอินเส่ง ทางตอนเหนือของนครย่างกุ้งซึ่งมีชื่อว่าเป็นเรือนจำสุดโหด

ขณะที่สมาคมเพื่อการช่วยเหลือนักโทษการเมืองเมียนมา หรือ เอเอพีพี ประเมินว่าตั้งแต่กองทัพรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 .. อาจมีผู้ที่ถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงจับกุมกว่า 5,900 คน ในจำนวนนี้ เป็นนักข่าวอย่างน้อย 87 คนซึ่งยังคงมีนักข่าวถูกคุมขังอีก 51 คน

แดนนี เฟนสเตอร์

หลังจากเมียนมาอยู่ใต้การปกครองของกองทัพ สื่อทั้งในประเทศและต่างประเทศแทบจะทำงานไม่ได้ หลายคนถูกเนรเทศให้พ้นเมียนมาหรือหนีเอาชีวิตรอดเข้าไปในพื้นที่ควบคุมของกลุ่มกบฏในป่า

แม้ตกอยู่ในสถานการณ์เลวร้าย แต่สื่อยังทำหน้าที่ส่งต่อข้อมูลข่าวสารให้สาธารณชนและชาวโลกได้รับรู้โดยสื่อที่ยังอยู่ในเมืองต่างๆ ต้องหลบๆ ซ่อนๆ ในเซฟเฮ้าส์และหนีไปที่อื่นทุกๆ 2-3 วันเพื่อไม่ให้ถูกจับได้

YANGON, YANGON REGION, MYANMAR – 2017/02/21: The Insein jail in Yangon with about 10,000 detainees, is Myanmar’s largest jail. (Photo by Thierry Falise/LightRocket via Getty Images)

ทรมานให้คุกเข่าบนน้ำแข็ง

ไม่เพียงแต่นักข่าวชาวต่างชาติหรือนักข่าวชาวอเมริกันเท่านั้นที่ถูกกองทัพจับกุม นักข่าวชาวเมียนมาเองก็ตกอยู่ในอันตรายเช่นกัน เนธาน หม่อง ชาวเมียนมาสัญชาติอเมริกันเป็นผู้ร่วมก่อตั้งและบรรณาธิการบริหารสำนักข่าวกามายุต มีเดียและ หันต่า เยง โปรดิวเซอร์ชาวเมียนมาถูกจับกุม

สำนักข่าวกามายุตเกาะติดการรายงานการจับกุมและสังหารผู้ประท้วงต่อต้านกองทัพ รวมทั้ง ขบวนการอารยะขัดขืน จนกระทั่งวันที่ 9 มี.. รถบรรทุกทหารมาจอดปิดถนนที่มุ่งหน้าสู่สำนักงานและทหารกระจายกำลังบุกเข้าไปในสำนักงานพร้อมทั้งจับกุมนักข่าวทั้ง 2 คน

เนธาน หม่อง (ซ้าย) และ หันต่า เยง

แหล่งข่าว 2 คนซึ่งคุ้นเคยกับนักข่าวทั้งคู่กล่าวว่านาธาน หม่องและหันต่า เยง ถูกทรมานระหว่างสอบปากคำที่ศูนย์สอบปากคำอยู่นาน 2 สัปดาห์

ทั้ง 2 คนถูกแยกขังเดี่ยวในศูนย์สอบปากคำโดยอยู่ในห้องติดกันและได้ยินเสียงอีกคนหนึ่งกรีดร้องระหว่างสอบปากคำเพราะถูกเฆี่ยนตี ไม่ได้รับประทานอาหารหรือน้ำหลายวัน รวมทั้งถูกปิดตาจึงไม่รู้ว่าเป็นเวลากลางวันหรือกลางคืน

หลังจากผ่านไป 5 วัน ทั้งคู่ถูกทรมานให้คุกเข่าบนก้อนน้ำแข็งจนกว่าจะละลาย ส่วนหันต่า เยง ถูกสั่งให้กอดก้อนน้ำแข็ง ห้ามกระดุกกระดิก หากขยับตัวจะถูกฟาดด้วยท่อนไม้หรือพานท้ายปืน

แหล่งข่าวกล่าวด้วยว่าคิดว่านาธาน หม่อง และหันต่า เยง คงจะเสียชีวิตในศูนย์สอบปากคำเสียแล้ว แต่ยังมีชีวิตอยู่ ก่อนถูกส่งไปเรือนจำอินเส่ง

FILE -มิน อ่อง ไหล่ ผู้นำรัฐประหาร (Myawaddy TV via AP)

นักข่าวญี่ปุ่นเผยสภาพคุก

นอกจากนี้ นักข่าวชาวญี่ปุ่น ยูกิ คิตะซูมิ ทำงานให้สำนักข่าวนิเคอิเป็นอีกคนที่ถูกส่งไปเรือนจำอินเส่งในเดือน เม.. ในข้อหาเผยแพร่ข่าวปลอมและถูกส่งไปเรือนจำอินเส่ง ก่อนได้รับการส่งตัวกลับไปญี่ปุ่นในเดือน ..

คิตะซูมิกล่าวว่าถูกขังในแดนเดียวกับนาธาน หม่องและหันต่า เยง โดยแต่ละคนถูกขังเดี่ยวซึ่งทุกคนพยายามรวบรวมข้อมูลจากคนที่มาเยี่ยม เช่น เจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตหรือทนายความแล้วกระจายข่าวให้ทราบกันเอง เช่น การประชุมอาเซียนว่าด้วยสถานการณ์ในเมียนมา

คุกนรกอินเส่ง

ยูกิ คิตะซูมิ

นักข่าว นักการเมืองและผู้ไร้อิสรภาพใน คุกนรกอินเส่ง ส่งต้องทนทุกข์ทรมานจากสภาพความเป็นอยู่ที่แออัด ไร้มนุษยธรรม ไม่มีความสะอาดและสุขอนามัย อีกทั้ง อาหารและยา รวมทั้ง การรักษาโรคไม่เพียงพอ

ขณะที่ครอบครัวของนักโทษ รวมทั้ง พ่อแม่ของเฟนสเตอร์เป็นห่วงบุตรหลานที่ถูกทหารจับตัวไปเพราะรายงานความจริงซึ่งกองทัพมองว่าเป็นภัยคุกคามและจำเป็นต้องยับยั้งไม่ให้เผยแพร่ออกไป

/////////////////

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :

รัฐบาลกองทัพเมียนมา ตั้งข้อหาผู้สื่อข่าวชาวญี่ปุ่นเผยแพร่ข่าวปลอม

นักข่าวญี่ปุ่นพ้นคุก เรียกร้องรัฐบาลญี่ปุ่น จัดการคณะทหารเมียนมาให้จริงจัง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน