ไอซ์แลนด์ชู – วันที่ 6 ก.ค. บีบีซี รายงานผลการทดลองการทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์ ในไอซ์แลนด์ ประเทศนอร์ดิกในยุโรปเหนือ ซึ่งคณะนักวิจัยระบุว่า เป็นความสำเร็จอย่างท่วมท้น และทำให้คนงานจำนวนมากเปลี่ยนมาทำงานในเวลาสั้นลง
AFP
การทดลองดำเนินการโดยสภากรุงเรคยาวิก เมืองหลวง และรัฐบาลไอซ์แลนด์ ตั้งแต่ปี 2558-2562 ด้วยจำนวนคนงานมากกว่า 2,500 คน ซึ่งคิดเป็นราว 1% ของประชากรที่ทำงานในประเทศ จะได้รับค่าจ้างเท่าเดิม แต่ชั่วโมงทำงานสั้นลง
ปรากฏว่า สถานที่ทำงานส่วนใหญ่ ยังมีผลิตภาพ (Productivity) เหมือนเดิมหรือดีขึ้น ขณะที่คนงานเผยว่า รู้สึกเครียดและเสี่ยงต่อการหมดไฟ (Burnout) ในการทำงานน้อยลง และว่า สุขภาพและความสมดุลในชีวิตการทำงานดีขึ้น
คณะนักวิจัยจากออโตโนมี (Autonomy) สถาบันคลังสมองของอังกฤษ และสมาคมเพื่อประชาธิปไตยยั่งยืน (Alda) ในไอซ์แลนด์ ระบุว่า หลายคนเปลี่ยนจากการทำงาน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ มาเป็น 35 หรือ 36 ต่อสัปดาห์
การทดลองดังกล่าวทำให้สหภาพแรงงานเจรจารูปแบบการทำงานใหม่ และตอนนี้ 86% ของกำลังแรงงานของไอซ์แลนด์เปลี่ยนมาทำงานในเวลาสั้นลงเพื่อได้รับค่าจ้างเท่าเดิม หรือจะได้รับสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนมาทำงานในเวลาสั้นลง
ย่านชุมชุนในกรุงเรคยาวิก เมืองหลวงของไอซ์แลนด์ PA
วิลล์ สตรองจ์ ผู้อำนวยการวิจัยแห่งออโตโนมี กล่าวว่า การศึกษานี้แสดงให้เห็นว่า การทดลองรูปแบบสัปดาห์การทำงานที่สั้นลง (Shorter working week) ในภาครัฐ ซึ่งเป็นการทดลองครั้งใหญ่ที่สุดในโลกเท่าที่เคยมีมา ถือเป็นความสำเร็จอย่างท่วมท้น
“แสดงให้เห็นว่าภาครัฐพร้อมบุกเบิกรูปแบบสัปดาห์การทำงานที่สั้นลง และเป็นบทเรียนให้รัฐบาลอื่นๆ สามารถศึกษาได้” วิลล์ สตรองจ์ กล่าว
ขณะที่กุดมุนดูร์ ดี. ฮารัลด์ซอน นักวิจัยแห่ง Alda กล่าวว่า “ระยะเวลาการพิสูจน์ของสัปดาห์การทำงานที่สั้นลงในไอซ์แลนด์บอกให้เรารู้ว่า ไม่เพียงมีความเป็นไปได้ที่จะทำงานน้อยลงในยุคปัจจุบัน แต่การเปลี่ยนแปลงแบบก้าวหน้ายังมีความเป็นไปได้เช่นกัน”
ทั้งนี้ ทั่วโลกกำลังทดลองลักษณะนี้ด้วย เช่น สเปนกำลังนำร่องให้บริษัทต่างๆ ทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์ อันเป็นส่วนหนึ่งของความท้าทายในช่วงการระบาดของโควิด-19
ส่วนที่นิวซีแลนด์ บริษัทยูนิลีเวอร์ยังทดลองให้โอกาสพนักงานลดชั่วโมงการทำงาน 20% โดยไม่ได้ลดค่าจ้างด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
นายกฯ สาวปรับเวลางาน ลดเหลือวันละ 6 ชั่วโมง 4 วันต่อสัปดาห์ เพิ่มเวลาใช้ชีวิต-ให้ครอบครัว
